ปัจจุบันตลาดการค้าโลกมีแนวโน้มเปิดเสรีมากขึ้น การสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันเพื่อให้ประเทศคู่ค้ายอมรับผลิตภัณฑ์ ทำได้โดยการยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าของไทยให้มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล ในอุตสาหกรรมอาหาร

HACCP คือ มาตรฐานการผลิตที่มีมาตรการป้องกันอันตราย ที่ผู้บริโภคอาจได้รับจากการบริโภคอาหาร โดยประเทศต่าง ๆ สามารถนำแนวทางไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างความมั่นใจในอุตสาหกรรมอาหารทั้งโดยผู้ผลิตและผู้บริโภค

หลักการสำคัญของระบบ HACCP มี 7 ประการ
1. การวิเคราะห์อันตราย (Conduct a hazard analysis)
2. กำหนดจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม (Determine the critical control point)
3. กำหนดค่าวิกฤต (Establish critical limit)
4. กำหนดระบบตรวจติดตามเพื่อควบคุมจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม (Establish a system to monitor control of the CCP)
5. กำหนดการแก้ไข (Establish the corrective action)
6. กำหนดการทวนสอบ (Establish procedures for verification)
7. กำหนดระบบเอกสารและการเก็บบันทึกข้อมูล (Establish documentation and record keeping)
ประโยชน์จากการใช้ระบบ HACCP
1. เป็นระบบที่นำมาใช้ร่วมกับระบบคุณภาพอื่น ๆ ได้
2. เป็นระบบที่นำมาใช้ในการควบคุมอันตรายจากสารเคมี สิ่งแปลกปลอมกับจุลินทรีย์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่สิ้นเปลือง
3. เป็นระบบที่ยอมรับในระดับสากลตามมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศว่าสามารถใช้สร้างความมั่นใจในการผลิตอาหารให้มีความปลอดภัย
4. ช่วยป้องกันการสูญเสีย จากการที่ผลิตภัณฑ์เกิดการปนเปื้อนหรือไม่เป็นไปตามข้อกำหนด
5. เป็นระบบที่เปลี่ยนการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย เป็นระบบการป้องกันปัญหาตามหลักการประกันคุณภาพ
6. เพิ่มอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์ สอดคล้องกับข้อกำหนดของประเทศคู่ค้า
7. เกิดภาพพจน์ที่ดีต่อองค์กรและผลิตภัณฑ์
8. เป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาสู่ระบบคุณภาพ ISO 9000
9. ลดภาระค่าใช้จ่ายในการผลิตที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด โดยเฉพาะคุณภาพด้านความปลอดภัย
10. สามารถยกระดับมาตรฐานการผลิตให้กับโรงงาน โดยมีการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยของอาหารอย่างมีระบบ
11. เป็นระบบคุณภาพด้านความปลอดภัยของอาหารที่สามารถขอรับการรับรองได้
สามารถอ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่ : https://bit.ly/3tdndkc