น้ำชา” เป็นเครื่องดื่มที่คนทั่วโลกนิยมดื่มกันได้ในทุกเวลาของช่วงวัน ไม่ว่าจะเป็นการจิบดื่มอุ่นๆ ในตอนเช้า ดื่มพร้อมของว่างแสนอร่อยยามบ่าย ดื่มระหว่างมื้ออาหาร ไปจนถึงการดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่นระหว่างวัน และยังเป็นที่นิยมของคนทุกเพศทุกวัยด้วย

แต่ชาที่ควรเลือกดื่มเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังอันตรายต่างๆ ได้ด้วย คือ ชา 5 ชนิดนี้

  1. ชาเขียว

ชาเขียวมีสานต้านอนุมูลอิสระชื่อว่า แคทีชิน (catechin) ที่ช่วยลดอาการอักเสบ และลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังอย่าง มะเร็ง เบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหลอดเลือดหัวใจได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดโปรตีนพลัคอันตราย ลดความเสี่ยงของโรคท่อเลือดแดงและหลอดเลือดแดงแข็ง ที่ทำให้เกิดลิ่มเลือด สาเหตุของโรคหลอดเลือดสมองได้อีกด้วย

  1. ชาคาโมมายล์

ชาคาโมมายล์เป็นชาอีกหนึ่งชนิดที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และสารยับยั้งแบคทีเรีย เป็นที่ทราบกันดีว่าชาคาโมมายล์มักนิยมนำมาดื่มก่อนนอนเพื่อช่วยให้หลับสบาย และช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยผ่อนคลายระบบประสาท และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบขับถ่ายด้วย สารต้านอนุมูลอิสระในชาคาโมมายล์ยังช่วยต่อสู้กับมะเร็งบางชนิด และยังมีงานวิจัยที่พบว่าคนที่ดื่มชาคาโมมายล์เป็นประจำจะอายุยืนกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มอีกด้วย

  1. ชาขิง

ขิง ถูกใช้เพื่อรักษาโรคต่างๆ และรักษาอาการป่วยต่างๆ มาอย่างยาวนานหลายปีแล้ว ชาขิงถูกนำมาใช้รักษาภาวะป่วยจากการเคลื่อนไหว และยังมีสารที่เรียกว่า จินเจอรอล (gingerol) ที่นำมาใช้บำบัดและป้องกันโรคมะเร็ง ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน ชาขิงยังเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่นำมารักษาแทนการใช้ยาต้านอาการอาเจียนสำหรับคนที่กินยาไม่ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยลดนำนัก และช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ได้อีกด้วย

  1. ชาเปปเปอร์มินต์

ชาเปปเปอร์มินต์ มักถูกนำมาใช้ประโยชน์ในแง่ของการดื่มเพื่อช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหาร ชาเปปเปอร์มินต์มีสารที่เรียกว่า เมนทอล ที่ช่วยผ่อนคลายระบบทางเดินอาหาร และบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ชาเปปเปอร์มินต์ยังมีสารยับยั้งแบคทีเรีย สารต้านอนุมูลอิสระ และสารต้านไวรัส ที่ช่วยต่อสู้กับมะเร็งได้ นอกจากนี้ยังถูกนำมาใช้รักษาโรคไอบีเอสหรือลำไส้แปรปรวนในช่วงระยะเวลาสั้นๆ อีกด้วย

  1. ชาฮิบิสคัส หรือชาดอกชบา

ชาฮิบิสคัส หรือชาดอกชบา ช่วยลดความดันโลหิตได้ มีงานวิจัยพบว่าหากผู้ที่มีภาวะเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง รวมถึงผู้ที่มีความดันโลหิตสูงในระดับเบาๆ ดื่มชาฮิบิสคัส หรือชาดอกชบาเป็นเวลาติดต่อกัน 6 สัปดาห์ จะสามารถช่วยลดระดับความดันโลหิตลงได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วน และโรคไขมันพอกตับที่ไม่ได้มีสาเหตุจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดได้อีกด้วย นอกจากนี้ในชาดอกชบายังมีสารต้านอนุมูลอิสระ และสารแอนโธไซยานิน ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังหลายชนิด เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และมะเร็ง เป็นต้น

ที่มา : .sanook