ภายในปี 2050 จำนวนประชากรโลกจะแตะ 9 พันล้านคน ผลที่ตามมาคือ ความต้องการในการบริโภคจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า!
แล้วการ “เลือก” บริโภคของมนุษย์เกี่ยวข้องอย่างไรกับการอนุรักษ์โลก?

รู้หรือไม่ว่า นอกจากลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว หรือลดการใช้พลังงานแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทุกคนสามารถทำได้เพื่อโลกของเราคือการ “กินเนื้อให้น้อยลง”
เนื่องจากกระบวนการผลิตเนื้อสัตว์ ไปจนถึงการบริโภคต่างส่งผลกระทบต่อโลกเรามากมาย ประเด็นแรกคือ ฟาร์มปศุสัตว์จำเป็นต้องใช้น้ำจำนวนมาก โดยเนื้อวัวครึ่งกิโลกรัม จำเป็นต้องใช้น้ำมากถึง 6,800 ลิตร นอกจากนี้ โรงฆ่าสัตว์ส่วนใหญ่ยังมีการจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้ของเสียถูกปล่อยออกสู่ธรรมชาติ และเกิดเป็นมลภาวะสู่ชั้นบรรยากาศในที่สุด
การทำปศุสัตว์ ยังมีผลให้ดินเสื่อมสภาพเร็ว เนื่องจากจำเป็นที่จะต้องถางป่า และปรับสภาพผืนดินเพื่อการเลี้ยง และปลูกพืชอาหารสัตว์ หน้าดินจึงเสื่อมสภาพอย่างหนัก และอาจใช้เวลาร่วมศตวรรษถึงจะกลับสู่สภาพเดิมได้
ทุกวันนี้ 25% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเกิดจากฟาร์มปศุสัตว์ รวมถึงการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อเพิ่มพื้นที่ฟาร์ม โดยก๊าซมีเทน , ไนตรัสอ๊อกไซด์ และคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาจากการเลี้ยงวัว และการใช้ปุ๋ยนั้น มีปริมาณเทียบเท่ากับก๊าซที่ปล่อยจากรถยนต์, เครื่องบิน และการขนส่งอื่นๆ เสียด้วยซ้ำ
เดือนตุลาคมปีที่แล้ว นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า หากเราต้องการจะแก้ไขปัญหาสภาวะโลกร้อน ประเทศแถบตะวันตกจำเป็นที่จะต้องลดการบริโภคเนื้อถึง 90% และเพิ่มการบริโภคอาหารจำพวกถั่วถึง 5 เท่าทดแทน
WWF ทำงานกับฟาร์มปศุสัตว์มากมาย เพื่อสนับสนุนการผลิตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งแนะนำแนวทางการบริโภคอย่างยั่งยืนเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้คนในชุมชน
นอกจากนี้ พวกเราทุกคนยังสามารถ #กินเนื้อน้อยลง และ #กินไม่เหลือ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรักษ์โลกได้ด้วย

ที่มา : Manager online 20 พฤษภาคม 2562  [https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9620000048131]