เมื่อวันที่ 3 ส.ค. สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. ร่วมกับ Centre for Space Science and Technology Education in Asia and the Pacific หรือCSSTEAP ประเทศอินเดีย ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการร่วมกันในรูปแบบออนไลน์ โดยมีผู้บริหารทั้งสองหน่วยงานเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุม Visionization ชั้น 6 GISTDA ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ

.

ดร.เครือวัลย์ จำปาเงิน โฆษก GISTDA และหัวหน้าฝ่ายบริหารเครือข่ายองค์ความรู้ระหว่างประเทศ สำนักเครือข่ายองค์ความรู้ กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ เกิดขึ้นจากที่ทั้งสองหน่วยงานมีความต้องการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศร่วมกัน โดย CSSTEAP เป็นหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาบุคลากรและงานวิจัยด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศระดับแนวหน้าของอินเดีย ดังนั้น จึงเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ การพัฒนาหลักสูตรระดับ Degree Program การจัดฝึกอบรมระยะสั้น และการดำเนินงานวิจัยขั้นสูง ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลก และเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอวกาศของประเทศไทยได้

.

โฆษก GISTDA กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทย โดย GISTDA ในฐานะประธานศูนย์ฝึกอบรมและวิจัยด้านเทคโนโลยีอวกาศและการประยุกต์ใช้แห่งอาเซียน (ASEAN Research and Training Center Space Technology and Applications) หรือ ARTSA จะใช้โอกาสตรงนี้ในการเชื่อมโยงองค์ความรู้และขับเคลื่อนความร่วมมือเชิงวิชาการด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ จากภูมิภาคเอเชียใต้สู่อาเซียนด้วย โดย GISTDA จะเป็นตัวกลางในการประสาน เพื่อให้เกิดการพัฒนาและผลักดันการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศในภูมิภาคให้ยั่งยืนต่อไป

.

ด้าน ดร.ปรากาศ ชาอูฮัน ผู้อำนวยการ CSSTEAP กล่าวว่า ในส่วนของหน่วยงาน CSSTEAP ประเทศอินเดียนั้น มีความหวังว่าความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นตัวกลางในการขยายฐานองค์ความรู้ด้านการประยุกต์ใช้ข้อมูลจากดาวเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลจากระบบเรดาร์ ผ่านกิจกรรมพัฒนาบุคลากรในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งการถ่ายทอดองค์ความรู้ในการพัฒนาดาวเทียมให้กับประเทศไทยและกลุ่มประเทศอาเซียนอีกด้วย

.

ที่มา : mgronline https://mgronline.com/science/detail/9650000074093