ลืมกลืน ในที่นี้ไม่ได้สื่อความหมายถึงอากัปกิริยาของการรับประทานอาหารแล้วลืมกลืนนะคะ แต่ลืมกลืน คือ ชื่อของขนมไทยโบราณ ที่หลายคนอาจจะฟังแล้วชื่อไม่คุ้นหู ซึ่งขนมไทยชนิดนี้ไม่ค่อยได้พบเห็นตามร้านหรือท้องตลาดทั่วไป จึงทำให้กลายเป็นขนมไทยอีกหนึ่งชนิดที่หาทานยากในปัจจุบัน

ขนมลืมกลืน ที่มาของชื่อนี้ คือ บ้างก็ว่าเป็นขนมอร่อย หอม หวาน มัน จึงอยากเคี้ยวให้อยู่ในปากนาน ๆ จนต้องลืมกลืน บ้างก็ว่าเป็นเพราะขนมนุ่ม ลื่น เคี้ยวและกลืนง่ายมาก ๆ จึงเรียกชื่อเช่นนั้น ส่วนผสมของตัวขนมแบ่งออกเป็นสองส่วน คือตัวขนมที่ทำจากแป้ง และหน้าขนมที่ทำจากกะทิ ตัวขนมมีลักษณะ นุ่ม หวาน หอม และหน้าขนมมีลักษณะ มัน ๆ เค็ม ๆ โดยมีวัตถุดิบและขั้นตอนการทำที่เป็นสูตรนุ่ม หอม หวานละมุน ดังนี้ วัตถุดิบสำหรับทำตัวขนม คือ แป้งถั่วเขียว 40 กรัม น้ำลอยดอกมะลิ 400 กรัม น้ำตาลทราย 120 กรัม สีผสมอาหารหรือสีจากธรรมชาติ 1 ช้อนโต๊ะ ถั่วเขียวเลาะเปลือกทอดสำหรับตกแต่งหน้าขนม และวัตถุดิบส่วนผสมหน้ากะทิ คือ กะทิ 250 กรัม แป้งข้าวเจ้า 25 กรัม แป้งถั่วเขียว 4 กรัม เกลือ 4 กรัม น้ำตาลทราย 12 กรัม รวมไปถึงอุปกรณ์เฉพาะ คือ ถุงใส่ส่วนผสมสำหรับบีบตกแต่งหน้าขนม และถ้วยพิมพ์แบบพลาสติกหรือถ้วยตะไล โดยมีขั้นตอนการทำขนม ดังนี้ ผสมแป้งถั่วเขียวและน้ำลอยดอกมะลิลงในกระทะและคนให้เข้ากัน จากนั้นยกขึ้นตั้งไฟอ่อน คนจนแป้งสุกข้นและมีสีใส เติมน้ำตาลทราย และคนต่อจนน้ำตาลละลาย จากนั้นยกออก จากเตา ใส่สีผสมอาหารหรือสีจากธรรมชาติตามความเข้มที่ต้องการ นำส่วนผสมใส่ถุงบีบขณะที่ส่วนผสมยังอุ่นๆ และบีบส่วนผสมให้เต็มถ้วยพิมพ์ เสร็จแล้วพักไว้ให้เย็น ต่อมาเป็นขั้นตอนทำหน้าขนมจากกะทิ โดยนำส่วนผสมทั้งหมด คือ กะทิ แป้งข้าวเจ้า แป้งถั่วเขียว เกลือ น้ำตาลทราย ใส่หม้อคนให้เข้ากัน ยกขึ้นตั้งไฟ กวนส่วนผสมจนสุก เสร็จแล้วพักไว้ให้เย็นแล้วทำการกรองจนมีเนื้อเนียน นำกะทิที่กรองแล้วใส่ในถุงบีบ ใช้หัวบีบเบอร์ 102  โดยอาจจะบีบตกแต่งเป็นรูปดอกไม้หรือเป็นเกลียวเพื่อเพิ่มความสวยงาม ตามด้วยโรยถั่วเขียวเลาะเปลือกลงบนหน้ากะทิเป็นอันเสร็จพร้อมทาน แต่ถ้าหากจะกล่าวถึงขนมลืมกลืนสูตรดั้งเดิมนั้น เมื่อหยอดหน้ากะทิแล้วจะต้องโรยด้วยถั่วเขียวเลาะเปลือกสีเหลืองทองหรือโรยด้วยกลีบกุหลาบ และต้องหยอดขนมใส่กระทงใบตองแบบเดียวกับขนมตะโก้ เพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นหอมของใบตองอันเป็นเสน่ห์ของขนมไทยแต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ปัจจุบันจึงนิยมใช้ถ้วยพิมพ์วุ้นที่เป็นพลาสติกมาใส่แทนซึ่งก็ดูสวยงามไปอีกแบบแต่เรื่องกลิ่นและรสชาติทีได้จากวัสดุธรรมชาตินั้นก็กลับเลือนหายไปเช่นกัน

ถึงแม้ว่า ขนมลืมกลืนจะเป็นขนมไทยโบราณที่หาทานได้ยาก แต่ด้วยวัตถุดิบและขั้นตอนการทำนั้นง่าย  ไม่ยุ่งยาก และใช้เวลาน้อย จึงอยากชวนทุกคนหาเวลาว่างมาลองทำขนมเพื่อเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดี ๆ ร่วมกันในครอบครัวและถือเป็นการอนุรักษ์ขนมไทยไม่ให้เลือนหายไปตามยุคสมัยอย่างน่าเสียดายค่ะ หรือหากผู้ใช้บริการท่านใดสนใจอ่านรายละเอียดสูตรวิธีทำขนมอื่น ๆ เพิ่มเติม สามารถสืบค้นข้อมูลได้จากหนังสือ ขนมไทย ยอดนิยม สูตรวิธีทำขนมไทยอร่อยหลากหลายชนิดแบบง่าย ๆ ด้วยตนเอง ที่มีให้บริการจากทางหอสมุดวิทยาศาสตร์ ดร.ตั้ว ลพานุกรม กรมวิทยาศาสตร์บริการ

☎️ Tel. : 0 2201 7250-5
📨 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
🟢 Line : @sltd
🔵 Facebook : ScienceLibraryDSS
🌐 Website : https://siweb.dss.go.th

รายการอ้างอิง
เสาวภรณ์ วังวรรธนะ. ขนมไทย ยอดนิยม. กรุงเทพฯ: พัฒนาศิลปาชีพ; 2553.
https://www.dss.go.th/a/qr/jr7Eb
ขนมลืมกลืน. [ออนไลน์]. ธันวาคม, 2665. [อ้างถึงวันที่ 15 กันยายน 2566]. เข้าถึงจาก :
https://th.wikipedia.org/wiki/ขนมลืมกลืน
Leum Kluen (ขนมลืมกลืน). [ออนไลน์]. [อ้างถึงวันที่ 15 กันยายน 2566]. เข้าถึงจาก : https://www.pholfoodmafia.com/recipe/leum-kluen-ขนมลืมกลืน/

ขอบคุณภาพประกอบจาก
https://www.krua.co/recipe/leum-kluen