เอาล่ะครับ เชื่อว่าทุกท่านล้วนมีประสบการณ์ในการฝันมากันหมดแบบที่หลีกเลี่ยงหรือกำหนดเองไม่ได้เลย บางฝันมันช่างหลุดโลกเหนือธรรมชาติ เหนือจินตนาการเกินกว่าจะบรรยายได้หมด แถมยังมีความเชื่อมากมายเกี่ยวกับฝัน ที่มักจะส่งผลต่อความรู้สึกของเราเมื่อตื่นจากความฝันอีกด้วย แล้วความฝันบอกอะไรกับเราล่ะ

     ในทางวิทยาศาสตร์ “ความฝัน” คือภาวะอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในขณะที่เราหลับ โดยสมองจะฉายภาพสิ่งต่าง ๆ ทั้งที่มีอยู่จริงหรือไม่มีอยู่จริงขึ้นมา และแม้ว่านักวิทยาศาสตร์จะพยายามศึกษาเกี่ยวกับความฝันมากเท่าไหร่ แต่ก็ยังไม่สามารถอธิบายข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความฝันได้อย่างแน่ชัด แต่หลาย ๆ ทฤษฎีก็เชื่อว่าความฝันมาจากจิตใต้สำนึกลึก ๆ ของคนเรานี่แหละ ที่อาจมีความกังวลหรือมีอะไรอยู่ภายในใจ ซึ่งสะท้อนออกมาในรูปแบบของความฝันโดยไม่รู้ตัว

     ในทางจิตวิทยาแล้วได้มีผู้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องความฝันอยู่บ้าง โดยเฉพาะผลงานของเอียน วอลเลซ  (Ian Wallace)  นักจิตวิทยาผู้ศึกษาเกี่ยวกับจิตใต้สำนึก ที่มองว่าความฝันนั้นคือการบ่งบอกถึงความรู้สึกลึก ๆ ของมนุษย์ เป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเอง โดยเขาใช้เวลามากกว่า 30 ปี ในการศึกษาความฝันกว่า 150,000 ฝัน จนได้ข้อสังเกตว่าความฝันอาจจะมีรูปแบบที่คอยกำหนดลักษณะของความฝันนั้น ๆ อยู่ จึงทำให้เราสามารถจำแนกความฝันที่คล้ายกันออกเป็นสาเหตุต่าง ๆ ได้ เช่น

     • ฝันว่าตกจากที่สูง อาจจะหมายถึงเรากำลังจดจ่อกับบางสิ่งบางอย่างมากเกินไป
     • ฝันว่าบินได้ แปลว่าเรากำลังปล่อยตัวให้เป็นอิสระจากบางอย่างที่ทำให้รู้สึกแย่
     • ฝันว่าฟันหลุด ความฝันนี้พบมากเป็นอันดับ 2 เลยทีเดียว โดยฝันนี้หมายถึงเรากำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์บางอย่างที่ทำให้เราเสียความมั่นใจไป
     • ฝันว่าโดนวิ่งไล่ แปลว่า เรากำลังมีเหตุการณ์บางอย่างที่เราต้องเผชิญหรือต่อสู้กับมัน แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี

     บางท่านอาจจะจดจำความฝันของตนเองได้ หรือไม่ได้ก็ตามเมื่อตื่นขึ้นมาแล้ว แต่ถ้าหากฝันดีเราก็จะมีความสุข เช่น ฝันว่างูรัด เขาว่าจะพบเจอเนื้อคู่หรือแฟนที่เราคาดหวังไว้ ถ้าหากฝันร้ายส่วนใหญ่มักก็จะบอกว่าฝันร้ายจะกลายเป็นดี สรุปแล้วทุกความฝันนั้นดีหมดอยู่ที่เราจะตีความและยอมรับได้ อย่างไรก็ตามความฝันนั้นเป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นภายในสมอง หรือความคิดของเราเองเท่านั้น อาจมีเรื่องราวที่ให้ความรู้สึกสนุก มีความสุข หรือความทุกข์ก็ได้ แต่ล้วนไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง ดังนั้น จึงไม่ควรตื่นตระหนกหรือวิตกกังวลกับความฝันมากเกินไป ควรอยู่กับปัจจุบันแบบตื่นรู้ สุดท้ายแล้วถ้าหากความฝันนั้นมีผลกระทบต่อจิตใจหรือการดำรงชีวิตของเรามากเกินไปก็ควรที่จะปรึกษานักจิตวิทยาและจิตแพทย์เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุและแก้ไขต่อไปด้วยนะ

     “แต่ถ้าหากฝันเห็นเลขเด็ด ก็ทักมาบอกกันบ้างนะ รอที่จะซื้อตามเลยยยย” ฝันดีนะ :)

Tel. : 0 2201 7250-5
e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
Line : @sltd
Facebook : ScienceLibraryDSS
Website : https://siweb.dss.go.th

ขอบคุณข้อมูลจาก
https://ooca.co/blog/dreams-mean/
https://www.pobpad.com/ฝัน-เรื่องลึกลับของสมอง