คำตอบ

เมล็ดองุ่นเป็นวัสดุเหลือทิ้งจากการผลิตไวน์คิดเป็นประมาณ 15% ในเมล็ดองุ่นมีน้ำมันประมาณ 10-16% ต่อน้ำหนักแห้ง ประกอบด้วยไตรกลีเซอไรด์และกรดไขมัน โดยเฉพาะกรดไขมันไม่อิ่มตัว เช่น linoleic acid มีประมาณ 72-76%(w/w) ซึ่งสูงกว่าน้ำมันจากเมล็ดพืชชนิดอื่นๆ เช่น safflower, sunflower และ corn oils ด้วยส่วนประกอบดังกล่าวทำให้น้ำมันจากเมล็ดองุ่นมีคุณค่าทางโภชนาการสูง นอกจากนี้ น้ำมันจากเมล็ดองุ่นยังมีปริมาณแทนนิน (tannins) สูงกว่าน้ำมันจากเมล็ดพืชชนิดอื่นๆ ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ
การสกัดน้ำมันจากเมล็ดองุ่นแบบเดิมจะบีบน้ำมันจากทั้งเมล็ด ที่เรียกว่า discontinuous-hydraulic press หรือบดเมล็ดแล้วผ่านความร้อนขณะที่บีบด้วย ปัจจุบันมีการใช้ตัวทำละลาย (solvent) เช่น hexane มาใช้ในการสกัดด้วย นอกจากนี้ยังมีวิธีการอื่นๆ ที่ไม่ต้องใช้ตัวทำละลาย เช่น การสกัดด้วยน้ำร้อน(hot water extraction) ,supercritical extraction (SFE) และ superheated hexane เป็นต้น

รายชื่อเอกสารที่เกี่ยวข้อง

1. J.M. Luque-Rodriguez, M.D. Luque de Castro and P. Perez-Juan. Extraction of fatty acids from grape seed by superheated hexane.Talanta 68 (1) 2005 : 126-130

2. Xueli Cao and Yoichiro Ito.Supercritical fluid extraction of grape seed oil and subsequent separation of free fatty by high-speed counter-current chromatography. Journal of Chromatography A 1021 (issue 1-2) 2003 : 117-123

3. Evelyn Leigh. Prepared FoodsGrape seed extract applications expand. Prepared Foods 172 Issue 02 2003 : 59