สืบค้นฐานข้อมูลกรมวิทยาศาสตร์บริการที่ไหนก็ได้

My Library on Finger Tips.

ล็อคอินครั้งเดียวผ่าน MyLOFT!!

เพียงทําตามขั้นตอนดังนี้:

การสร้างบัญชีผู้ใช้งาน

กรณีมีบัญชีอยู่แล้ว

  1. ตรวจสอบกล่องอีเมลของท่านก่อนการสร้างบัญชี
  2. ค้นหาอีเมลจาก MyLOFT เพื่อตั้งรหัสผ่านจากอีเมลฉบับดังกล่าว
  3. ผู้ใช้งานสามารถเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีและรหัสผ่านที่ตั้งค่า

*หากไม่ได้รับอีเมลดังกล่าว กรุณา login เข้าแอป MyLoft ด้วยอีเมลของท่าน และคลิก Forgot password เพื่อตั้งรหัสผ่านใหม่ และตรวจสอบอีเมลอีกครั้ง หากท่านยังคงไม่ได้รับอีเมลโปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ห้องสมุด โทร 02-201-7250

กรณีสร้างบัญชีด้วยตนเอง

  1. เปิดแอปพลิเคชัน MyLOFT
  2. เลือก Department of Science Service (DSS)
  3. คลิก Sign up และกรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน
  4. จากนั้นติดต่อเจ้าหน้าที่ห้องสมุด โทร 02-201-7250

การดาวน์โหลดและติดตั้ง

หากใช้งานผ่านมือถือหรือ Tablet :

  1. ติดตั้งแอป MyLOFT 

     

  2. เลือกหน่วยงาน (Department of Science Service (DSS)) และลงชื่อเข้าใช้งาน

หากใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์:

  1. เข้าสู่ myloft.xyz ด้วย Chrome browser
  2. เลือก Launch Web App
  3. เลือกหน่วยงานและลงชื่อเข้าใช้งาน
  4. ระบบจะแจ้งเตือนว่าคุณยังไม่ได้ติดตั้งแอปฯ ให้คลิก Add Extension
  5. เลือก "เพิ่มใน Chrome”
  6. คลิก Add extension บน pop-up

** ลงชื่อเข้าใช้งานแอปพลิเคชั่น ตามภาพประกอบด้านล่าง

  1. เปิดแอป MyLOFT บน PC หรือ mobile
  2. เลือกหน่วยงาน คลิก Continue
  3. ลงชื่อเข้าใช้งานด้วยอีเมลและรหัสผ่านที่ลงทะเบียน
  4. คลิก sign in 

มีจำนวน 10 รายการ ดังนี้

IF 17 (105)

Quantification of lactose in lactose-free and low-lactose milk and milk products by BIOMILK 300/3000 LAC, collaborative study: Final action 2020.09

IF 68 (150)

Design aspects and characterization of hydrogel-based bioinks for extrusion-based bioprinting

IF 68 (151)

An overview of filtration efficiency through the masks: Mechanisms of the aerosols penetration

IF 83 (194)

LC-MS/MS determination of antibiotic residues in distillers grains: Method modification

IF 96 (91)

Zero-emission forklifts: Reducing your carbon footprint one lift at a time

IF 111 (150)

The global energy crisis and its strike against the P&P Industry

IF 111 (151)

Evaluation of soap recovery efficiency from black liquor-analytical tools

IF 111 (152)

Advantages of lean duplex stainless steels in the pulp and paper industry

IF 116 (110)

A roadmap for efficient and stable all-perovskite tandem solar cells from a chemistry perspective

IF 120 (75)

A selective SARS-CoV-2 host-directed antiviral targeting stress response to reactive oxygen species

***หากต้องการเอกสารฉบับเต็ม โปรดติดต่อเจ้าหน้าทางอีเมล This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.***

คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่านักบินอวกาศซักเสื้อผ้าของพวกเขาได้อย่างไรในอวกาศ? และคำตอบที่อาจทำให้รู้สึกประหลาดใจก็คือ พวกเขาไม่เคยซักเสื้อผ้าเลย

น้ำชา” เป็นเครื่องดื่มที่คนทั่วโลกนิยมดื่มกันได้ในทุกเวลาของช่วงวัน ไม่ว่าจะเป็นการจิบดื่มอุ่นๆ ในตอนเช้า ดื่มพร้อมของว่างแสนอร่อยยามบ่าย ดื่มระหว่างมื้ออาหาร ไปจนถึงการดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่นระหว่างวัน และยังเป็นที่นิยมของคนทุกเพศทุกวัยด้วย

แต่ชาที่ควรเลือกดื่มเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังอันตรายต่างๆ ได้ด้วย คือ ชา 5 ชนิดนี้

  1. ชาเขียว

ชาเขียวมีสานต้านอนุมูลอิสระชื่อว่า แคทีชิน (catechin) ที่ช่วยลดอาการอักเสบ และลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังอย่าง มะเร็ง เบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหลอดเลือดหัวใจได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดโปรตีนพลัคอันตราย ลดความเสี่ยงของโรคท่อเลือดแดงและหลอดเลือดแดงแข็ง ที่ทำให้เกิดลิ่มเลือด สาเหตุของโรคหลอดเลือดสมองได้อีกด้วย

  1. ชาคาโมมายล์

ชาคาโมมายล์เป็นชาอีกหนึ่งชนิดที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และสารยับยั้งแบคทีเรีย เป็นที่ทราบกันดีว่าชาคาโมมายล์มักนิยมนำมาดื่มก่อนนอนเพื่อช่วยให้หลับสบาย และช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยผ่อนคลายระบบประสาท และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบขับถ่ายด้วย สารต้านอนุมูลอิสระในชาคาโมมายล์ยังช่วยต่อสู้กับมะเร็งบางชนิด และยังมีงานวิจัยที่พบว่าคนที่ดื่มชาคาโมมายล์เป็นประจำจะอายุยืนกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มอีกด้วย

  1. ชาขิง

ขิง ถูกใช้เพื่อรักษาโรคต่างๆ และรักษาอาการป่วยต่างๆ มาอย่างยาวนานหลายปีแล้ว ชาขิงถูกนำมาใช้รักษาภาวะป่วยจากการเคลื่อนไหว และยังมีสารที่เรียกว่า จินเจอรอล (gingerol) ที่นำมาใช้บำบัดและป้องกันโรคมะเร็ง ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน ชาขิงยังเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่นำมารักษาแทนการใช้ยาต้านอาการอาเจียนสำหรับคนที่กินยาไม่ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยลดนำนัก และช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ได้อีกด้วย

  1. ชาเปปเปอร์มินต์

ชาเปปเปอร์มินต์ มักถูกนำมาใช้ประโยชน์ในแง่ของการดื่มเพื่อช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหาร ชาเปปเปอร์มินต์มีสารที่เรียกว่า เมนทอล ที่ช่วยผ่อนคลายระบบทางเดินอาหาร และบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ชาเปปเปอร์มินต์ยังมีสารยับยั้งแบคทีเรีย สารต้านอนุมูลอิสระ และสารต้านไวรัส ที่ช่วยต่อสู้กับมะเร็งได้ นอกจากนี้ยังถูกนำมาใช้รักษาโรคไอบีเอสหรือลำไส้แปรปรวนในช่วงระยะเวลาสั้นๆ อีกด้วย

  1. ชาฮิบิสคัส หรือชาดอกชบา

ชาฮิบิสคัส หรือชาดอกชบา ช่วยลดความดันโลหิตได้ มีงานวิจัยพบว่าหากผู้ที่มีภาวะเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง รวมถึงผู้ที่มีความดันโลหิตสูงในระดับเบาๆ ดื่มชาฮิบิสคัส หรือชาดอกชบาเป็นเวลาติดต่อกัน 6 สัปดาห์ จะสามารถช่วยลดระดับความดันโลหิตลงได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วน และโรคไขมันพอกตับที่ไม่ได้มีสาเหตุจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดได้อีกด้วย นอกจากนี้ในชาดอกชบายังมีสารต้านอนุมูลอิสระ และสารแอนโธไซยานิน ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังหลายชนิด เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และมะเร็ง เป็นต้น

ที่มา : .sanook

แม้จะผ่านมากว่า 60 ปีที่ อลัน เชพเพิร์ด เป็นชาวอเมริกันคนแรกที่เดินทางไปยังอวกาศได้สำเร็จ ณ วันนี้ชาวอเมริกันยังคงเดินหน้าตามรอยเท้าของเขา เพื่อก้าวสู่อวกาศอันไกลโพ้นอย่างต่อเนื่อง