พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการเกี่ยวกับระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลที่ต้องได้รับใบอนุญาต พ.ศ. 2565

มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการเกี่ยวกับระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลที่ต้องได้รับใบอนุญาต พ.ศ. 2565”

มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา 3 ในพระราชกฤษฎีกานี้

“อัตลักษณ์” หมายความว่า ลักษณะเฉพาะของบุคคลซึ่งสามารถบ่งบอกหรือจำแนกได้โดยคุณลักษณะหรือชุดของคุณลักษณะที่เกี่ยวข้องกับตัวบุคคลนั้น

“บุคคล” หมายความว่า บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล

“การพิสูจน์ตัวตน” หมายความว่า กระบวนการรวบรวมและตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของบุคคล และการตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างบุคคลกับข้อมูลเกี่ยวกับอัตลักษณ์นั้น

“สิ่งที่ใช้ยืนยันตัวตน” หมายความว่า สิ่งที่ใช้เชื่อมโยงอัตลักษณ์กับบุคคล ซึ่งบุคคลนั้น ครอบครองและควบคุมเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน เช่น รหัสผ่าน ข้อมูลชีวภาพ

“การออกและบริหารจัดการสิ่งที่ใช้ยืนยันตัวตน” หมายความว่า กระบวนการเชื่อมโยงอัตลักษณ์ของบุคคลที่ผ่านการพิสูจน์ตัวตนแล้วเข้ากับสิ่งที่ใช้ยืนยันตัวตน และการบริหารจัดการสิ่งที่ใช้ยืนยันตัวตนนั้น

“การยืนยันตัวตน” หมายความว่า กระบวนการยืนยันอัตลักษณ์ของบุคคลด้วยการตรวจสอบสิ่งที่ใช้ยืนยันตัวตนของบุคคลนั้น

“ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

“สำนักงาน” หมายความว่า สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์หรือผู้ซึ่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มอบหมายให้ปฏิบัติการตามพระราชกฤษฎีกานี้

มาตรา 4 ให้สำนักงานมีหน้าที่ควบคุมดูแลธุรกิจบริการเกี่ยวกับระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลที่ต้องได้รับใบอนุญาตตามพระราชกฤษฎีกานี้ 

      เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลผู้รับใบอนุญาตซึ่งประกอบธุรกิจอันเป็นกิจการที่มีหน่วยงานกำกับดูแลตามกฎหมายโดยเฉพาะอยู่แล้ว สำนักงานโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการจะทำความตกลงมอบหมายให้หน่วยงานกำกับดูแลตามกฎหมายเฉพาะนั้นทำหน้าที่ควบคุมดูแลผู้รับใบอนุญาตซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของตนแทนสำนักงานก็ได้

มาตรา 5 การยื่นคำขอรับใบอนุญาต การแจ้ง หรือการส่งข้อมูล รายงาน เอกสาร หรือหลักฐานตามพระราชกฤษฎีกานี้ ให้กระทำโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ตามที่สำนักงานกำหนด

มาตรา 6 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

....

หมายเหตุ : เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่บริการเกี่ยวกับระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลเป็นบริการที่มีความสำคัญต่อการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยเป็นขั้นตอนสำคัญในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องมีการพิสูจน์และยืนยันตัวตน และช่วยสร้างความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ สมควรควบคุมดูแลการประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล โดยการกำหนดลักษณะของการประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลที่ต้องได้รับใบอนุญาตและกำหนดหลักเกณฑ์ในการประกอบธุรกิจ เพื่อให้ระบบดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัย ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อสาธารณชน ตลอดจนเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและยอมรับในระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 139 ตอน 78 ก (23 ธันวาคม พ.ศ. 2565) หน้า 36-48

https://rkj.soc.go.th/DATA/PDF/2565/A/078/t_0036.pdf