มันสำปะหลัง เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย และของโลก มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้มีการนำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ระดับโมเลกุลมาประยุกต์ใช้เพื่อปรับปรุงสายพันธุ์มันสำปะหลังให้มีลักษณะตามความต้องการของภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมมากขึ้น 

         รองศาสตราจารย์ ดร.กนกพร ไตรวิทยากร สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ศึกษาและวิจัยการปรับปรุงสายพันธุ์มันสำปะหลัง โดยได้จัดทำแผนที่ข้อมูลทางพันธุศาสตร์ของมันสำปะหลัง และนำมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนามันสำปะหลัง ทั้งในสายพันธุ์ที่ปลูกเพื่อป้อนโรงงานอุตสาหกรรม และเพื่อการบริโภค โดยใช้ชื่อสายพันธุ์ว่า “พิรุณ” ซึ่งหมายถึง “พืชของเทวดา” ที่มีชีวิตขึ้นอยู่กับ “น้ำฝน” หรือ “พระพิรุณ” ซึ่งมันสำปะหลังที่ได้รับการปรับปรุงสายพันธุ์ ได้แก่ พิรุณ 1, 2 และ 4 โดยเลขคี่ตั้งขึ้นสำหรับมันสำปะหลังสายพันธุ์อุตสาหกรรม และเลขคู่สำหรับสายพันธุ์เพื่อบริโภค โดยมันสำปะหลังสายพันธุ์อุตสาหกรรม จะมีปริมาณแป้งที่สูงกว่าสายพันธุ์เพื่อบริโภค หากนำหัวสดของมันสำปะหลังที่มีปริมาณแป้งสูงมาทำให้สุกแล้วรับประทาน  พบว่ามีความแข็งมากกว่า เนื่องจากมีปริมาณแป้งที่มากกว่า จากผลงานวิจัยที่ได้พัฒนามันสำปะหลังสายพันธุ์พิรุณ 1 ซึ่งเป็นมันสำปะหลังสายพันธุ์อุตสาหกรรมที่ให้ผลผลิตสูง แป้งสูง และทนต่อโรคพืช และสายพันธุ์ที่ปลูกเพื่อการบริโภค คือ สายพันธุ์พิรุณ 2 และ 4 ซึ่งเป็นมันสำปะหลังเพื่อบริโภคที่สามารถเพิ่มโอกาสให้เกษตรกรได้สร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถเพิ่มรายได้จากการแปรรูปอาหาร นอกเหนือไปจากการปลูกมันสำปะหลังเพื่อป้อนโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีราคาต่ำ และทำรายได้เพียงปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น  

        จากการปรับปรุงสายพันธุ์จนได้มันสำปะหลังที่มีเนื้อสัมผัสอ่อนนุ่ม รสชาติดี และปลอดกลูเตน ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นอันตรายต่อผู้ที่มีอาการแพ้ รวมถึงความพยายามที่จะพัฒนาต่อยอดเป็น “แป้งย่อยยาก” ซึ่งเป็นแป้งที่ทนต่อการย่อยในกระบวนการย่อยอาหาร หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็น “แป้งที่ให้พลังงานต่ำ” เพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการแปรรูปอาหาร ได้กลายเป็นมิติใหม่ของอาหารเพื่อสุขภาพของไทย ซึ่งโดยปกติแล้วคนไทยโดยทั่วไปไม่ได้บริโภคมันสำปะหลังกันเป็นอาหารหลัก โดย รองศาสตราจารย์ ดร.กนกพร ไตรวิทยากร ยังได้มองไปถึงโอกาสในการพัฒนามันสำปะหลังต่อไปในรุ่นพิรุณ 3, 6 และ 8 ซึ่งนอกจากจะมีการพัฒนาต่อยอดด้านการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังในสายพันธุ์อุตสาหกรรมแล้ว ยังจะได้มีการปรับปรุงรสชาติให้ดีขึ้น และเสริมคุณค่าด้วยวิตามิน เพื่อเป็นการเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้สูงขึ้นในมันสำปะหลังเพื่อบริโภคอีกด้วย อ่านเพิ่มเติม 

                     

ที่มาของขัอมูลและรูปภาพ :