คำตอบ

จากการศึกษาวิจับพบว่า ส่วนที่มีสารสำคัญในการออกฤทธิ์ในว่านหางจระเข้คือส่วน aloe gel โดยสารที่พบได้ใน aloe gel เป็นสารจำพวก polysaccharides, glycoproteins, anthraquinone และยังมี enzyme บางประเภทที่มีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบ จากการศึกษาทางคลินิกพบว่า aloe gel มีประสิทธิภาพในการช่วยรักษาอาการไหม้เนื่องจากความร้อนและรังสี โดยการทดสอบในหนูทดลองพบว่า aloe gel สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดและลดการเกิดกระบวนการอักเสบได้ โดยจะทำให้กลไกในการเกิดการอักเสบช้าลงและเพิ่มระยะเวลาในการ recovery ของ epithelium cell หลังจากโดนรังสีและความร้อนเผาไหม้สำหรับผลในการป้องกันการทำลายเซลล์ผิวจากรังสีพบว่า aloe gel สามารถป้องกันเซลล์ผิวหนังจากการทำลายจากรังสีแกมม่า รังสี x-ray และรังสี UVB ในหนูทดลอง โดย aloe gel สามารถลดการเกิดกระบวนการ UVB-mediated suppression ต่อ lagerthans cells ในผิวหนังชั้น epidermis ได้ จึงส่งผลทำให้การหลั่ง immunomodulator และทำให้ skin hypersensitivity  ลดลง นอกจากนี้ aloe gel ยังสามารถจำกัดอนุมูลอิสระ (Scavenge free radicals) ได้อีกด้วย
 ทั้งนี้จากการศึกษายังพบว่า ความเข้มข้นของ aloe gel ในสูตรตำรับที่เหมาะสมในการรักษาแฟลไหม้เนื่องจากถูกความร้อนและรังสีนั้น ควรมีความเข้มข้นไม่น้อยกว่า 70% ของตำรับ และยังพบว่า aloe vera cream ยังสามารถช่วยป้องกันการเกิดการไหม้เนื่องจากแสงแดดได้ โดยสามารถช่วยดูดซับรังสีในช่วงความยาวคลื่น 290-320 นาโนเมตร ซึ่งเป็นช่วงความยาวคลื่นที่มี ผลต่อกระบวนการการสร้างเม็ดสีที่ส่งผลทำให้สีผิวคล้ำขึ้นได้

รายชื่อเอกสารที่เกี่ยวข้อง

สุภชา สกุลมานิต.  “ว่านหางจระเข้กับการป้องกันรังสี UV”.  R&D Newsletter.  ปีที่ 19, ฉบับที่ 3, (กรกฎาคม-กันยายน), 2555, หน้า 15.