คำตอบ
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีหลากหลายวิธีในการคัดแยกสิ่งแปลกปลอมที่ปะปนในวัตถุดิบ เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ยกตัวอย่างเช่น 1. Camera ซึ่งจะทำการคัดแยกสิ่งแปลกปลอมด้วยกล้องจับภาพ ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่ช่วงสีที่มองเห็นได้ ช่วงอินฟาเรด (IR) และช่วงอัลตราไวโอเลต (UV) จากนั้นเครื่องจะทำการแปลงผลเปรียบเทียบกับภาพมาตรฐานที่ตั้งไว้ ซึ่งการคัดแยกแบบนี้สามารตรวจวัดสีและรูปร่างที่ผิดปกติเพื่อแยกสิ่งแปลกปลอมเหล่านั้นออกมา 2. LED ซึ่งใช้หลอด LED (light-emitting diode) ในการฉายไปยังผลิตภัณฑ์ จากนั้นจผลิตภัณฑ์ที่เสียหรือสิ่งแปลกปลอมจะสะท้อนสีที่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ที่ดี ทำให้สามารถคัดแยกโดยกลไกการคัดแยกออกมาได้ ระบบการตรวจสอบนี้สามารถตรวจวัดสีและรูปทรงคล้ายกับการใช้กล้องจับภาพแต่จะให้ความแม่นยำมากขึ้นกว่าเดิม 3. Laser ซึ่งเป็นการแสกนรูปร่างและสีของผลิตภัณฑ์โดยใช้แสงเลเซอร์ เพื่อตรวจวัดหาความผิดปกติของรูปทรงและสีของผลิตภัณฑ์ดีและไม่ดี จากนั้นจะส่งสัญญาณเข้าสู่ระบบการคัดแยกเพื่อทำการคัดแยกต่อไป แสงเลเซอร์ที่ใช้สำหรับการตรวจวัดความผิดปกติของรูปทรงจะนิยมใช้แสงเลเซอร์อินฟาเรด ขณะที่ความผิดปกติของสีจะใช้เลเซอร์สี (แดง เขียว น้ำเงิน) ในการตรวจวัด
รายชื่อเอกสารที่เกี่ยวข้อง
Inspecting system : getting higher performance by laser sorting. Asia Pacific Food Industry Thailand.5, 26, 2007, หน้า 44