English Title : Launch of violet fancy corn 111, new innovation of Thai farmland
Author : ทะนุพงศ์ กุสุมา ณ อยุธยา
Source : เทคโนโลยีชาวบ้าน ปีที่ 25 ฉบับที่ 544 (กุมภาพันธ์ 2556) หน้า 79-81
Abstract : ข้าวโพดข้าวเหนียวพันธุ์แฟนซีสีม่วง 111 มีสารแอนโธไซยานินส์ มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด มีวิตามิน B3 วิตามินอี Omega 6 และ 9 มากกว่าข้าวโพดอื่น ข้าวโพดสามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารได้หลายประเภท เช่น ข้าวโพดอ่อนบรรจุกระป๋อง ข้าวโพดฝักอ่อนหมักเป็นน้ำส้มสายชูธรรมชาติ น้ำนมข้าวโพด ตั้งฉ่ายจากเปลือกข้าวโพดอ่อนหรือขั้วข้าวโพด ชาไหมข้าวโพด ซึ่งการแปรรูปในอุตสาหกรรมอาหารเป็นทางหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้ข้าวโพดได้ สำหรับสารแอนโธไซยานินส์ ในเมล็ดข้าวโพดข้าวเหนียวพันธุ์แฟนซีสีม่วง 111 มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งคุณสมบัตินี้มีสูงกว่าวิตามินซีหลายพันเท่า ช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็ง ช่วยเสริมให้ร่างกายต่อต้านเชื้อโรคและสมานแผล เสริมภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ดีขึ้น ส่งเสริมการทำงานของเม็ดเลือดแดง ชะลอการเกิดไขมันอุดตันในหลอดเลือด ลดภาวะเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ เพิ่มความสามารถในการมองเห็น ชะลอความเสื่อมของดวงตา ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน ชะลอความเสื่อมของเซลล์ เคล็ดลับในการทำให้ข้าวโพดข้าวเหนียวสีม่วงพันธุ์แฟนซีสีม่วง 111 น่ารับประทาน และคงคุณค่าทางอาหารอย่างเต็มเปี่ยมมีขั้นตอนง่าย ๆ คือ ให้นำฝักข้าวโพดสีม่วงปอกเปลือกหุ้มออก โดยให้เหลือเปลือกหุ้มฝักประมาณ 2-3 ชั้น เพื่อรักษาสารแอนโธไซยานินส์ให้คงอยู่ในเมล็ดและทำให้เมล็ดมีความเต่งตึงน่ารับประทาน และนำฝักข้าวโพดไปนึ่งแทนการต้ม ใช้เวลาประมาณ 25-30 นาที นำออกมารับประทานได้ ทั้งนี้สารแอนโธไซยานินส์ จะละลายได้ดีในความเย็น ดังนั้นควรปล่อยให้ฝักข้าวโพดคลายความร้อนเล็กน้อยก่อนรับประทาน จะทำให้สีม่วงไม่ติดมือ รสชาติ และคุณค่าทางอาหารยังคงเดิม
Subject : ข้าวโพดข้าวเหนียวสีม่วง--แง่โภชนาการ, ข้าวโพดข้าวเหนียวสีม่วง--ผลิตภัณฑ์