สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ให้ทุนสนับสนุน นวัตกรรมคัดกรองโควิด -19 จากลมหายใจ ตรวจได้แบบไม่ต้องเจ็บตัว นักวิจัยเผยใช้จมูกอิเล็กทรอนิกส์ผสานกับแมชชีนเลิร์นนิ่งและเอไอ แยกแยะกลิ่นคนติดเชื้อได้ รู้ผลใน 5 นาที คาดผลิตจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ภายในสิ้นปีนี้ ชมต้นแบบและทดลองใช้งานจริงที่งานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565

.

วันนี้ (3ส.ค.)ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่าปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)เป็นหนึ่งในปัญหาที่มีความสำคัญ และยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องในปัจจุบันซึ่งหากไม่มีมาตรการหรือยุทธศาสตร์เชิงรุกในการควบคุมเชื้อโรคได้ดีอาจจะทวีความรุนแรงขึ้นได้อีกในอนาคตสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมจึงให้ทุนสนับสนุน “การพัฒนาระบบต้นแบบเครื่องตรวจคัดกรองผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แบบไม่เจ็บตัวโดยการวิเคราะห์โปรไฟล์จากลมหายใจ” ผลงานของ “นายพิศิษฐ์ มิตรเกื้อกูลและคณะ” ที่ร่วมกันพัฒนานวัตกรรมอุปกรณ์ทางการแพทย์รูปแบบใหม่เพื่อเป็นทางเลือกในการคัดกรองผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว

.

นายพิศิษฐ์ มิตรเกื้อกูล นายกสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ กล่าวว่านวัตกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นจากการบูรณาการความเชี่ยวชาญของทีมผู้พัฒนาที่มาจากหลายหน่วยงานซึ่งประกอบด้วยสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ โรงพยาบาลราชวิถีมหาวิทยาลัยมหิดลและภาคเอกชนโดยระบบต้นแบบเครื่องตรวจคัดกรองผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19โดยใช้ลมหายใจนี้ถือเป็นนวัตกรรมรูปแบบใหม่ในการตรวจคัดกรองผู้ป่วยฯ ที่ไม่ต้องเจ็บตัวไม่ต้องแยงจมูกไม่ต้องเจาะเลือดและไม่ต้องใช้น้ำลาย ซึ่งวิธีดังกล่าวเป็นวิธีที่มีความไว (Sensitivity) และความจำเพาะ(specificity)สูงสามารถรู้ผลตรวจได้ภายใน 5นาทีทำให้สามารถทำการคัดแยกผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อให้ออกมาได้อย่างรวดเร็วสามารถเข้าสู่กระบวนการรักษาได้ทันท่วงทีและลดโอกาสในการระบาดของเชื้อโควิด-19ในวงกว้างได้โดยมีค่าใช้จ่ายในการตรวจไม่เกิน 10บาท/คน

.

ด้านดร.เธียร์สิทธิ์ นาสัมพันธ์ นักวิจัยหลังปริญญาเอกจากภาควิชาเภสัชกรรมคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล หนึ่งในคณะผู้พัฒนาฯ เปิดเผยว่างานวิจัยนี้เป็นการสร้างเครื่องสำหรับวิเคราะห์ลมหายใจ เพื่อจำแนกกลิ่นที่แตกต่างกันของคนติดเชื้อกับคนไม่ติดเชื้อ ซึ่งเป็นการต่อยอดองค์ความรู้เดิมที่มีการพัฒนาเครื่องที่วิเคราะห์ลมหายใจในการวิเคราะห์โรคมาแล้ว โดยเครื่องแรกคือเครื่องตรวจระดับน้ำตาลในกระแสเลือดโดยใช้ลมหายใจ ซึ่งใช้งานกับโรคเบาหวานมาแล้วกว่า 10ปี ทำให้มีฐานข้อมูลและองค์ความรู้ เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19ในช่วง2-3ปีที่ผ่านมาจึงเกิดแนวคิดในการฟอร์มทีมที่จะนำองค์ความรู้ที่มีอยู่ต่อยอดกับความเชี่ยวชาญของหน่วยงานต่างๆในการสร้างนวัตกรรมรูปแบบใหม่ขึ้น

.

“ทีมวิจัยเริ่มเก็บข้อมูลและทดสอบเบื้องต้นตั้งแต่ปี 2563 เมื่อมีข้อมูลมากพอจนเกิดความมั่นใจจึงเริ่มขออนุญาตทำการทดสอบในคนอย่างเป็นทางการ และเก็บตัวอย่างมากขึ้นที่โรงพยาบาลราชวิถี ต่อมาได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากวช. ในปี 2564 ทำให้สามารถเก็บตัวอย่างได้จำนวนมากขึ้นและพัฒนาต้นแบบออกมาได้อย่างรวดเร็ว”

.

สำหรับเทคโนโลยีที่ใช้ในการพัฒนาฯ นักวิจัยกล่าวว่าเป็นการนำเทคโนโลยีที่เรียกว่าจมูกอิเล็กทรอนิกส์ หรือก๊าซเซ็นเซอร์มาตรวจวัดสารระเหยอินทรีย์หรือกลิ่นที่เป็นสารไบโอมาร์กเกอร์จากลมหายใจ ซึ่งทีมวิจัยมีฐานข้อมูลที่สามารถจดจำและจำแนกกลิ่นที่แตกต่างระหว่างคนที่ติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อได้ นอกจากนี้ยังมีการนำระบบแมชชีนเลิร์นนิ่งและปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ เข้ามาใช้ในการประมวลผลทำให้สามารถวิเคราะห์และตรวจคัดกรองได้อย่างแม่นยำมากขึ้นปัจจุบันมีความแม่นยำประมาณ 97 % จากฐานข้อมูลของทีมวิจัยที่มีอยู่ประมาณ 3พันตัวอย่าง

.

อย่างไรก็ตามทีมวิจัยได้มีการเก็บตัวอย่างการคัดกรองโควิด-19 จากผู้เข้าชมงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565 ซึ่งเป็นการนำต้นแบบนวัตกรรมออกมาทดสอบใช้งานกับกิจกรรมภายนอกโรงพยาบาลเป็นครั้งแรก และจะมีการนำเอาข้อมูลกลับไปปรับปรุงนวัตกรรมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนวัตกรรมนี้ได้ขอจดสิทธิบัตรแล้ว 12ประเทศใน 6ทวีปและอยู่ระหว่างการดำเนินการส่งตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติที่มีคุณภาพรวมถึงมีแผนในการขอขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมบัญชีสิ่งประดิษฐ์และการทำมาตรฐานต่างๆ ให้เป็นที่ยอมรับคาดว่าจะสามารถผลิตจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ภายในสิ้นปีนี้ และอนาคตจะสามารถประยุกต์ใช้งานเครื่องดังกล่าวกับการตรวจคัดกรองโรคอื่นๆที่ใช้ลมหายใจเป็นตัวบ่งชี้หรือบ่งบอกสภาวะผิดปกติได้

.


งานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565โดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมจัดถึง 5สิงหาคม 2565ณห้องบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ชั้น 22โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์เซ็นทรัลเวิลด์กรุงเทพฯสามารถลงทะเบียนเข้าชมงานได้ที่www.researchexpo.nrct.go.thแบบ Onlineภายในวันที่ 5สิงหาคม 2565หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ 02 579 1370-9ต่อ 515, 517, 518, 519และ 524ติดตามข้อมูลข่าวสารการจัดงานได้ที่ www.researchexpo.nrct.go.th fanpage :สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ

.

ที่มา : mgronline https://mgronline.com/science/detail/9650000073751