ธนาคารกสิกรไทย เดินหน้าโครงการ “GO GREEN Together” ต่อเนื่อง จับมือ 4 พันธมิตร “กฟผ. - พีอีเอ เอ็นคอมฯ - ศุภาลัย - อินโนพาวเวอร์” เปิดตัวโครงการ “SolarPlus” ติดตั้งโซลาร์รูฟให้ประชาชนฟรี!! เพื่อผลิตและขายไฟฟ้าเป็นครั้งแรกในไทย นำร่องที่หมู่บ้านศุภาลัย ตั้งเป้าติดตั้ง 500,000 หลังทั่วประเทศ ภายใน 5 ปี พร้อมเตรียมวงเงินสินเชื่อให้ผู้ลงทุน 50,000 ล้านบาท คาดจะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 2.3 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี หวังคนไทยเปลี่ยนใช้พลังงานสะอาด ผลักดันประเทศสู่เป้า Net Zero

.
นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารฯ ร่วมกับ 4 พันธมิตรใหญ่ ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม สมาร์ท โซลูชั่น จำกัด บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด เปิดตัวโครงการ SolarPlus ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการที่สนับสนุนให้คนไทยใช้พลังงานสะอาด ภายใต้โครงการ “GO GREEN Together” เพื่อตอบโจทย์ประชาชนที่สนใจติดตั้งโซลาร์รูฟ แต่มีความลังเลเพราะต้องใช้เงินลงทุนสูง ระยะเวลาคืนทุนนาน และมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา

.
จึงเป็นที่มาของการเปิดตัวโครงการ SolarPlus ซึ่งเป็นการติดตั้งโซลาร์รูฟให้ประชาชนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อผลิตและขายไฟฟ้าเป็นครั้งแรกในไทย เจ้าของบ้านไม่ต้องลงทุนติดตั้งและเสียค่าบำรุงรักษา อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากการลดค่าไฟฟ้า 20% ในส่วนของการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์ โดยเริ่มนำร่องที่หมู่บ้านศุภาลัยเป็นโครงการแรก

.

ทั้งนี้ ธนาคารฯ ได้ให้การสนับสนุนสินเชื่อแก่บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม สมาร์ท โซลูชั่น จำกัด เพื่อใช้ลงทุนติดตั้งและบำรุงรักษาโซลาร์รูฟให้ประชาชนที่ร่วมโครงการ และธนาคารฯ ยังรับซื้อไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั้งหมดที่เหลือจากการใช้งานของบ้านที่ร่วมโครงการนี้ เพื่อนำมาใช้ในเครือธนาคารกสิกรไทย ซึ่งถือเป็นหนึ่งกิจกรรมการใช้พลังงานสะอาดเพื่อเพิ่ม Carbon Handprint ให้กับองค์กร และเป็นส่วนหนึ่งการผลักดันให้เกิด Green Ecosystem เพื่อสนับสนุนคนไทยให้ใช้ชีวิตแบบ Green Lifestyle ได้ง่ายขึ้น

.
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการ SolarPlus มานำร่องที่ “ศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ รังสิต คลอง 2” ซึ่งเป็นโครงการแนวราบที่มีลูกบ้านเข้าอยู่แล้วจำนวนมาก คาดว่าจะได้รับความสนใจจากลูกบ้านเป็นอย่างดี เนื่องจากช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า การนำร่องครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งตามเป้าหมายลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 25% ภายใน 3 ปี อีกทั้งมีแผนติดตั้ง EV charger ที่โครงการทั่วประเทศ เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

.
นายเขมรัตน์ ศาสตร์ปรีชา รองผู้ว่าการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และประธานคณะกรรมการ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม สมาร์ท โซลูชั่น จำกัด กล่าวถึงเงื่อนไขและข้อตกลงว่า บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการติดตั้งและบำรุงรักษาระบบโซลาร์เซลล์ของบ้านเรือนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าแก่บ้านเรือน ส่วนการจัดเก็บค่าไฟจะเป็นไปตามสัญญาการให้บริการ ซึ่งกระแสไฟฟ้าที่เหลือใช้จากบ้านเรือนจะถูกจำหน่ายเข้าไปในระบบไฟฟ้าในราคาหน่วยละ 2.20 บาท หรือนำมาซื้อขายแบบ Peer to Peer Energy Trading

.

บริษัทฯ คาดหวังให้โครงการนี้ช่วยจุดกระแสให้ประชาชนทั่วไปหันมาใช้พลังงานสะอาดด้วยการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ที่บ้านเรือนของตนเอง เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น และหวังว่าโครงการดังกล่าวจะเป็นต้นแบบให้กับโครงการซื้อขายพลังงานแบบ Peer to Peer Energy Trading ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

.

ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กฟผ.นำแพลตฟอร์ม Peer to Peer Energy Trading เข้ามามีส่วนร่วมสร้างมูลค่าเพิ่มแก่โครงการ แพลตฟอร์มนี้พัฒนาขึ้นโดยทีมงาน กฟผ. และผ่านการทดลองใช้งานจริงในโครงการ ERC Sandbox เฟส 1 มาแล้ว ซึ่งต่อไปจะมีการพัฒนาให้ใช้งานง่ายขึ้นและแพร่หลายยิ่งขึ้น เพื่อจะสามารถขยายผลสู่การใช้งานในเชิงพาณิชย์และตอบโจทย์ผู้บริโภคในอนาคต

.

นายอธิป ตันติวรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด

.

กล่าวว่า บริษัทฯ สนับสนุนการเข้าถึงพลังงานสะอาด โดยให้บริการขึ้นทะเบียนอุปกรณ์ของโครงการพลังงานหมุนเวียน การซื้อขายใบรับรอง Renewable Energy Certification (REC) แบบเบ็ดเสร็จ เพื่อเพิ่มรายได้แก่ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการภาคธุรกิจบรรลุเป้าหมายการใช้พลังงานสะอาด โดย REC เป็นหนึ่งในกลไกที่ช่วยส่งเสริมการผลิตและการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และเพิ่มขีดความสามารถด้านการพัฒนานวัตกรรมพลังงานยั่งยืนของประเทศ

.

นายพิพิธ กล่าวทิ้งท้ายว่า ธนาคารฯ มีแผนขยายโครงการนี้ไปทั่วประเทศ และตั้งเป้าติดตั้งโซลาร์รูฟจำนวน 500,000 หลังภายใน 5 ปี เตรียมวงเงินสินเชื่อให้แก่ผู้ลงทุน 50,000 ล้านบาท คาดว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ 2.3 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี และหวังอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะช่วยให้คนไทยเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดมากขึ้นและจะเป็นตัวเร่งให้เกิด Green Ecosystem ได้จริงในสังคมไทย ซึ่งนำไปสู่ Net Zero ได้ตามเป้าหมายของประเทศ

.

เมื่อช่วงต้นปีนี้ กสิกรไทยได้เปิดตัวโครงการ GO GREEN Together เป็นจุดเริ่มต้นที่ชวนทุกคนในสังคมไทยร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งยังนับเป็นธนาคารแรกที่เชื่อมโยงและผลักดันให้ Green Ecosystem เกิดขึ้นจริงอย่างครบวงจร ประเดิมด้วยแคมเปญสินเชื่อ GREEN ZERO มีการออกผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ เช่น สินเชื่อธุรกิจเพื่อติดตั้งแผงโซลาร์ สินเชื่อบ้านสีเขียว สินเชื่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า บริการให้เช่าใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมจุดเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่สาขา รวมทั้ง ร่วมกับพันธมิตรจัดทำโครงการต่างๆ เพื่อสนับสนุนคนไทยให้ใช้ชีวิตแบบ Green Lifestyle ได้ง่ายขึ้น

ที่มา : mgronline https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9650000083644