มนุษย์อวกาศเตือนหยุดทำร้ายโลกไปมากกว่า ก่อนที่เราจะอาศัยอยู่ไม่ได้ พร้อมชี้เราจำเป็นต้องตรวจวัดสุขภาพของโลกอย่างจริงจัง ถึงผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และระบุด้วยว่า เรากำลังเผชิญปัญหาที่ยากที่สุดเท่าที่เคยเจอ
เม เจมิสัน (Mae Jemison) มนุษย์อวกาศจากองค์การบริหารหารบนอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) และเป็นหญิงอเริกันเชื้อสายแอฟริกันคนแรกที่ขึ้นไปอวกาศ ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนในการประชุม COP24 ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในโปแลนด์ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2018 ที่ผ่านมา ซึ่งมีตัวแทนจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมเกือบ 200 ประเทศ
เจมิสันกล่าวถึงภาวะโลกร้อนว่าเป็นปัญหายากที่สุดที่มนุษย์เคยเผชิญ ส่วนประเด็นที่ผู้คนมักพูดถึงการพิทักษ์รักษาโลกนั้น มักจะเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะจริงๆ แล้วไม่ใช่การรักษาโลก แต่เป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่า เราจะไม่เดินหน้าทำลายโลกเกินไป จนไม่สามารถรองรับการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตต่อไปได้
“ชาติทั้งหลายต้องอาศัยการประชุมของสหประชาชาตินี้ เพื่อตกลงในกฎเกณฑ์ที่มีผลผูกมัดเมื่อ 3 ปีที่แล้วที่ปารีส ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยโลก ไม่ให้เพิ่มสูงเกิน 2 องศาเซลเซียม และให้เพิ่มขึ้นอยู่ในระดับปลอดภัยที่ 1.5 องศาเซลเซียส หากทำได้” เจมิสันระบุ
ในทางวิทยาศาสตร์นั้นได้แสดงออกอย่างชัดเจน โดยผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิอากาศของยูเอ็นที่ทำงานโดยเป็นอิสระระบุว่า การปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากเชื้อเพลิงฟอสซิลนั้นจะต้องหั่นลงไปครึ่งหนึ่งภายในปี 2030 หากต้องการให้บรรลุเป้าหมายในข้อตกลงปารีส
ทว่าสถานการณ์การปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปัจจุบันนั้นได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องนับแต่มีข้อตกลงปารีสเมื่อปี 2015 ซึ่งทำให้เราเผชิญกับการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิในระดับที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าจะส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต แต่การเมืองเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศนั้นยุ่งยากซับซ้อน เพราะข้อตกลงในการประชุม COP24 นั้นจำเป็นต้องเป็นได้รับความพึงใจจากทุกฝ่าย ทั้งชาติมหาอำนาจอย่างจีนที่เป็นชาติหลักในการปลดปล่อยมลพิษ และเกาะขนาดเล็กๆ ที่มีความเสี่ยงได้รับผลกระทบจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้น
เจมิสันอาศัยประสบการณ์เฉพาะตัวที่ได้เมื่อครั้งเป็นลูกเรือกระสวยอวกาศเมื่อปี 1992 วางความขัดแย้งทางการเมืองออกจากอนาคตของมนุษยชาติที่มีโลกเป็นบ้านเพียงหลังเดียว เธอบอกว่ามีภาพจำเมื่อครั้งมองออกมานอกหน้าต่างกระสวยอวกาศ และเห็นโลกสำน้ำเงินที่มีเพียงชั้นบรรยากาศบางๆ ทอแสงประกาย
“เราต้องทำให้เรื่องนี้ชัดเจน นี่เป็นการพิจารณาอย่างจริงจังครั้งแรก เราไม่ได้ต้องการเรา แต่เราต้องการโลก และแม้จะฉันจะอยากไปดาวอังคารมากเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ใช่แผนสองสำหรับอารยธรรมและเผาพันธุ์ของเรา เราต้องหาคำตอบในเรื่องนี้” เจมิสันกล่าว
ที่มา : Manager online 05.12.18 [https://mgronline.com/science/detail/9610000121102]