3 หน่วยงาน สวทช.-มจธ.-มจพ.ร่วมมือยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ฯ เพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการ SME ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ให้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอัตลักษณ์
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ลงนามความร่วมมือ “โครงการยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และโซ่อุปทานด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม” เมื่อวันที่ 3 ก.ย.62 ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
การลงนามความร่วมมือดังกล่าวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการพึ่งพาตนเองของผู้ประกอบการ SME ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ให้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอัตลักษณ์ แข่งขันได้ทั้งตลาดภายในและภายนอกประเทศ พร้อมสร้างเครือข่ายและร่วมกันพัฒนาอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าสนับสนุนผู้ประกอบการในการพัฒนาศักยภาพ ไม่น้อยกว่า 20 ราย ในระยะเวลา 2 ปี
รศ.ดร.ธเนศ ธนิตย์ธีรพันธ์ คณบดีคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง 3 หน่วยงานครั้งนี้ เพื่อมุ่งสร้างสรรค์พัฒนายกระดับศักยภาพด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ เพิ่มขีดความสามารถพึ่งพาตนเองของผู้ประกอบการทั้งระดับกลางและระดับย่อย พัฒนาคุณภาพบรรจุภัณฑ์ทั้งในด้านการใช้งานและความสวยงาม สร้างสรรค์แนวทางการใช้ทรัพยากรทุกๆ ด้านให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน แก้ปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้สามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีอัตลักษณ์และมีศักยภาพในการแข่งขันได้ทั้งตลาดภายในและภายนอกประเทศ
"มจธ. โดยภาควิชาเทคโนโลยีการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี จะเน้นส่งเสริมกระบวนการสร้างสรรค์การใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน ซึ่งจะรับบทบาทเป็นที่ปรึกษาในเรื่องการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องมาใช้ผลิตหรือพัฒนาบรรจุภัณฑ์ และเข้าไปให้คำแนะนำตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ การเลือกวัสดุบรรจุภัณฑ์ การเลือกใช้นวัตกรรมให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ การยืดอายุการเก็บอาหาร การลดต้นทุนการผลิตและยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ การลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์หรือเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด รวมทั้งกระบวนจัดหาวัตถุดิบ จนถึงขั้นตอนกำจัดทิ้ง ที่จะสามารถนำสิ่งเหลือทิ้งกลับมาใช้ประโยชน์ได้" รศ.ดร.ธเนศกล่าว
ด้าน ศ.ดร.สมฤกษ์ จันทรอัมพร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กล่าวว่า ความร่วมมือของ 3 หน่วยงานจะเป็นการร่วมมือกันเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ในการพึ่งพาตนเองของผู้ประกอบการ โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ในการผลิตแบบอัจฉริยะ เช่น การพัฒนาระบบ IoT และการสร้างระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ บิกดาตา (Big data) ให้เกิดระบบการผลิตทางไซเบอร์-กายภาพ (Cyber Physical Product System) ที่สนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ในการยกระดับศักยภาพทางการผลิตสินค้าและบริการ เพื่อเกิดความมั่งคั่งและยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ
"มจพ.โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมระบบไซเบอร์-กายภาพทางการผลิต สำนักวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะเน้นใช้กลไกความร่วมมือด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ผ่านการมีส่วนร่วมของผู้ประกอบการในการพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างก้าวกระโดดด้วยการสร้าง ‘ห่วงโซ่คุณค่า’ (Value Chain) ให้สถานประกอบการมีเป้าหมายที่ชัดเจน ในการพัฒนาคุณค่าของธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด ที่ตอบสนองต่อการเพิ่มจุดแข็งการแข่งขันด้วยกิจกรรมต่างๆ ภายใต้โครงการ อาทิ การเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตด้วยระบบปฏิบัติการอัตโนมัติอัจฉริยะ การจัดการเทคโนโลยีบำรุงรักษาและความน่าเชื่อถือ เพื่อลดความสูญเสียของเครื่องจักร และค่าใช้จ่ายการจัดการโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม การควบคุมและติดตามผลกำไรกระบวนการผลิตในยุคอุตสาหกรรม 4.0 และการพัฒนาระบบควบคุมและติดตามความก้าวหน้างานเพื่อควบคุมต้นทุนการผลิตแบบ Real Time"นายเฉลิมพล ตู้จินดา ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช.และรองผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี สวทช. กล่าวว่าความร่วมมือระหว่าง สวทช.และมหาวิทยาลัย 2 แห่งครั้งนี้ เป็นการทำงานร่วมกันอย่างครอบคลุมในทุกมิติ เพื่อเตรียมพร้อมในการวางแผนใช้ทรัพยากรอย่างริเริ่มสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านเครื่องมือและองค์ความรู้ด้านการพัฒนาและเกิดนวัตกรรมด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมและด้านผลสัมฤทธิ์ของโครงการทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการที่ได้รับจากการเพิ่มขีดความสามารถในการพึ่งพาตนเอง ทั้งระดับกลางและระดับย่อยในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเกิดจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอัตลักษณ์ แข่งขันได้ทั้งตลาดภายในและภายนอกประเทศ รวมทั้งยังสร้างเครือข่ายและร่วมกันพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วย
ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯจะได้รับคำแนะนำด้านวิชาการเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านบรรจุภัณฑ์และนวัตกรรมการออกแบบวัสดุและเทคโนโลยีการพิมพ์จากผู้เชี่ยวชาญ และการสนับสนุนจากโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP) ซึ่งตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบอย่างน้อย 20 รายในระยะเวลา 24 เดือน (ก.ย.62 - ส.ค.64)
“โครงการฯมุ่งหวังจะเป็นส่วนหนึ่งของการทำ creative and problem solving ทางด้านบรรจุภัณฑ์ การออกแบบการเลือกใช้วัสดุและการผลิตงานพิมพ์บรรจุภัณฑ์ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ไทย ในการพัฒนาคุณภาพของบรรจุภัณฑ์ ทั้งในด้านใช้งานและความสวยงามสร้างสรรค์แนวทางใช้ทรัพยากรทุกๆ ด้านให้เกิดประโยชน์สูงสุด แก้ปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังหวังให้เป็นโครงการนำร่อง ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ประสบความสำเร็จ เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้กลุ่มธุรกิจสินค้าและบริการด้วยการสนับสนุนอย่างครบวงจร ตั้งแต่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ผลิตสินค้าใช้ทรัพยากรทุกๆ ด้าน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นอีกหนึ่งกลไกที่จะช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมสร้างรายได้เพิ่มให้ผู้ประกอบการผ่านการส่งเสริมความรู้และนวัตกรรมให้กับผู้ประกอบการอย่างจริงจัง” ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช.กล่าว
สำหรับผู้สนใจขอรับการสนับสนุนข้อมูลด้านวิชาการเทคโนโลยี และนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์และการออกแบบวัสดุและเทคโนโลยีการพิมพ์รวมถึงคำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ติดต่อได้ที่โปรแกรม ITAP สวทช. โทร.0 2564 7000 ต่อ 1301,1368, 1381 หรือที่ภาควิชาเทคโนโลยีการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มจธ. โทร.0 2470 8571-4 และศูนย์วิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมระบบไซเบอร์-กายภาพทางการผลิต สำนักวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มจพ. โทร.0 2555 2000
ที่มา : Manager online 3 กันยายน 2562 [https://mgronline.com/science/detail/9620000084442]