ในช่วงนี้ “UFO” ได้กลายมาเป็นคำคุ้นหูคุ้นตา ผ่านสื่อต่างๆ มากมาย และไม่ว่าจะยุคสมัยไหน ก็มีการกล่าวคำนี้มากันอย่างเนิ่นนาน ซึ่งหลายๆ คน ก็จะสื่อถึงยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว และหลายๆ คน ก็อาจจะยังไม่รู้ว่า UFO - ยู เอฟ โอ เป็นตัวย่อที่มีความหมายมาจากคำว่าอะไร Science MGROnline จีงขอพาไปทำความรู้จักกับคความหมายของคำว่า UFO คืออะไร และทำไมถึงเรียก ยู เอฟ โอ

.

UFO ย่อของคำว่า Unidentified Flying Object ในความหมายกว้างที่สุดที่ได้มีการบรรยายไว้ มีความหายว่า สิ่งผิดปกติประจักษ์ชัดใดๆ ในท้องฟ้า หรือใกล้หรืออยู่บนพื้นดิน แต่สังเกตว่าบินร่อน ลงจอดหรือทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ซึ่งไม่สามารถระบุได้ในทันทีว่าเป็นวัตถุหรือปรากฏการณ์ใดๆ ที่ทราบจากการสังเกตด้วยตา และ - หรือ การใช้เครื่องมือช่วย เช่น เรดาร์

.

ที่มาของคำว่าคำว่า "UFO"

นั้นถูกประดิษฐ์ขึ้นอย่างเป็นทางการใน ค.ศ. 1953 โดยกองทัพอากาศสหรัฐ เพื่อใช้แทนคำว่า "จานผี" หรือ "จานบิน" ที่ใช้เรียกสิ่งผิดปกติ เรดาร์ ในช่วง ค.ศ.1940 – ต้น ค.ศ.1950 เนื่องจากมีการอธิบายหลากหลายรูปทรงนอกเหนือจาก "รูปจาน" (disc/saucer) มีการระบุว่า "UFO" (ยูเอฟโอ) เป็น วัตถุบินใดๆ ซึ่งโดยสมรรถภาพ ลักษณะเฉพาะทางอากาศพลศาสตร์ หรือคุณลักษณะไม่ปกติ ไม่สอดคล้องกับอากาศยานหรือขีปนาวุธประเภทใดที่ทราบกันในปัจจุบัน หรือไม่สามารถระบุเอกลักษณ์ตามวัตถุที่คุ้นเคยได้

.

ในเรื่องการค้นพบวัตถุที่เรียกว่า UFO มีรายงานต่างๆ ออกมามากมายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่เกือบในทุกครั้งๆ ก็จะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายไม่ได้ หรือเป็นปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์หรือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ และในบางครั้งก็เป็นฝีมือการทดลองของมนุษย์เอง และข่าวเรื่อง UFO ก็จะได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในทุกยุคทุกสมัยไม่ว่าเวลาจะผ่านมาเนิ่นนานเท่าใดก็ตาม

.

ในปัจจุบันรัฐบาลสหรัฐฯ ได้มีการเปลี่ยนมาใช้คำว่า “UAPs” Unidentified Aerial Phenomena ที่มีความหายว่าปรากฏการณ์ทางอากาศที่ไม่สามารถอธิบายได้ เพื่อยกเลิกการเชื่อมโยงกับมนุษย์ต่างดาวหรือเอเลียนจากนิยายวิทยาศาสตร์ หรือทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ ที่มีอยู่ในสังคมมนุษย์ และคำนี้ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการศึกษาทางวิทยาศาสตร์มากขึ้น เพื่อศึกษาปรากฏการณ์แปลกประหลาด ที่ไม่สามารถอธิบายได้ ให้มีข้อมูลที่กระจ่างมากยิ่งขึ้น และให้มนุษย์โลกอย่างเราๆ ได้คำตอบที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นไปอีก

.

แต่ไม่ว่าจะเรียก UFO หรือ UAPs เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับวัตถุลึกลับนี้ก็ยังไม่หายไปจากเรา เพราะนับวันเทคโนโลยีก็มีการพัฒนาขึ้นอย่างมากๆ พอๆ กับจินตนาการของมนุษย์เราเอง การหาคำตอบในเรื่องนี้คงจะมีความกระจ่างมากขึ้นในเร็ววัน

ที่มา : mgronline https://mgronline.com/science/detail/9660000016200