กาแฟพันธุ์ไทยตอกย้ำความมุ่งมั่นยกระดับ Ecosystem อุตสาหกรรมกาแฟ สานต่อกลยุทธ์ Everywhere Everyone นำเดต้ามาวิเคราะห์เพื่อเสิร์ฟสินค้าและบริการที่ตรงใจ เข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกเจนเนอเรชัน ในทุกช่องทาง พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่แตกต่างจากคู่แข่ง พร้อมรุกตลาดกาแฟพรีเมียมและกาแฟในบ้านอย่างต่อเนื่อง โดยต่อยอดความสำเร็จจากคอลเลคชัน 9 กาแฟดริปรักษ์โลกพันธุ์ไทย เมื่อปลายปีที่ผ่านมา สู่การเปิดตัว “กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย” ในรูปแบบ Home Compostable เป็นแบรนด์แรกของไทย ที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติทุกชิ้นส่วน สามารถย่อยสลายได้ 100% โดยยังคงเอกลักษณ์รสชาติ และเทสโน้ตของเมล็ดกาแฟพิเศษสไตล์พันธุ์ไทย ในราคาคุ้มค่า ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความสะดวกสบาย และเลือกใช้สินค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างคุณค่าให้กับสังคมอย่างยั่งยืน

.

สุขวสา ภูชัชวนิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด กล่าวว่า “วัฒนธรรมการดื่มกาแฟกลายเป็นไลฟ์สไตล์ที่อยู่ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค โดยเฉพาะในปัจจุบันที่กาแฟโลกเข้าสู่ยุคคลื่นลูกที่สาม (3rd Wave Coffee) ที่ผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจและให้ความสำคัญกับคุณภาพของเมล็ดกาแฟพิเศษ หรือ Specialty Coffee ตั้งแต่ต้นน้ำ พื้นที่เพาะปลูก สายพันธุ์กาแฟ กระบวนการเก็บเกี่ยว การคั่วกาแฟ รวมไปถึงคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ซึ่งกาแฟพันธุ์ไทยได้มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ควบคู่กับการสนับสนุนชุมชน และดูแลสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ซึ่งการสร้างสรรค์ “กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย” ในครั้งนี้ นอกจากผู้บริโภคจะได้ดื่มด่ำกาแฟพิเศษรสชาติพรีเมียมได้ง่ายๆ ที่บ้านหรือที่ทำงานแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดขยะ ลดการสร้างมลพิษ อันเป็นสาเหตุของวิกฤตภาวะโลกร้อน เพราะทุกองค์ประกอบของกาแฟแคปซูลและแพคเกจจิ้ง สามารถย่อยสลายได้ทุกชิ้น ปลอดภัยต่อทุกชีวิต ไม่ทำร้ายโลกในระยะยาว”

.

กาแฟพันธุ์ไทย เป็นแบรนด์แรกของไทย ที่เลือกใช้วัสดุธรรมชาติทั้งหมด ในการผลิตกาแฟแคปซูล หรือที่เรียกกันว่า Home Compostable สามารถสลายตัวได้ทางชีวภาพ 100% โดยตัวแคปซูลผลิตจากเซลลูโลส เส้นใยพืช แป้ง ส่วนฝาแคปซูลผลิตจากเยื่อกระดาษธรรมชาติ โดยไม่มีส่วนประกอบของพลาสติกและอะลูมิเนียม ได้รับการรับรองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติย่อยสลายได้ทางชีวภาพ DIN CERTCO จากประเทศเยอรมนี สามารถทิ้งในถังขยะประเภทเศษอาหารได้ นำไปทำปุ๋ยหมักไว้ใช้ในครัวเรือนได้ แม้กระทั่งทิ้งในสวนหลังบ้านก็ไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์ในดิน ไส้เดือนสามารถรับประทานได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อพันธุกรรม สามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้ภายใน 3 เดือน ด้วยอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 50 องศาเซลเซียส และปัจจัยด้านความชื้น ออกซิเจน รวมถึงจุลินทรีย์ที่เหมาะสม ซึ่งสามารถช่วยลดขั้นตอนและพลังงานในการกำจัดขยะ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ตัวกล่องบรรจุภัณฑ์ของกาแฟแคปซูลพันธุ์ไทยยังผลิตจากกระดาษรีไซเดิล 100% ใช้หมึกพิมพ์น้ำมันถั่วเหลือง (Soy Ink) จากธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในการบ่งบอกรสชาติของสินค้า สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่เหลือเป็นขยะตกค้าง (Zero Waste) เรียกได้ว่า ทุกชิ้นส่วนผลิตจากธรรมชาติ และสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งภาะระไว้ให้โลกแม้แต่ชิ้นเดียว

.

กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย จากสายพันธุ์อาราบิก้าแท้ 100% ผ่านการคัดเลือกเมล็ดกาแฟพิเศษจากแหล่งเพาะปลูกที่มีคุณภาพ ผ่านการบ่ม การคั่ว จนได้รสชาติและกลิ่นหอมตามโพรไฟล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ กาแฟพันธุ์ไทย ให้คุณดื่มด่ำประสบการณ์สุดพรีเมียมอย่างสะดวกสบายได้ง่ายๆ ราคาแคปซูลละ 20-22 บาท โดยใน 1 กล่อง บรรจุกาแฟ 10 แคปซูล ปริมาณแคปซูลละ 5.5 กรัม มีทั้งหมด 3 Profiles 3 รสชาติ 3 ระดับการคั่ว ดังนี้

.

o กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย ดาร์ก โรสต์ (Punthai Coffee Capsule - Dark Roasted) กาแฟคั่วเข้ม สายพันธุ์อาราบิก้าไทย 100% แบบ Washed Process เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติและบอดี้เข้ม เทสโน้ตโทนดาร์กช็อกโกแลต เจือความหวานของน้ำผึ้งปลายๆ มี Aftertaste ที่ยาวนาน ได้ความรู้สึกสะอาดของรสชาติกาแฟ เหมาะกับทุกเมนู ทั้งร้อนและเย็น

.

o กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย นัตตี้ เบลนด์ (Punthai Coffee Capsule - Nutty Blend) กาแฟคั่วกลางไปทางเข้ม อาราบิก้าไทย เบลนด์ด้วยกาแฟอาราบิก้าจากบราซิลและฮอนดูรัส เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบบอดี้ปานกลาง เข้มข้นและขมน้อย กลิ่นและรสชาติออกแนวดาร์คโกโก้ มีความหอมของช็อกโกแลต ปนอัลมอนด์ ฟีลวนิลาและบัตเตอร์สก๊อต เหมาะกับเมนูใส่นม หรือจะดื่มแบบไลท์ๆ ก็กลมกล่อม

.

o กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย ฟรุตตี้ เบลนด์ (Punthai Coffee Capsule - Fruity Blend) กาแฟคั่วระดับอ่อนค่อนไปทางกลาง เมล็ดกาแฟไทย เบลนด์ด้วยกาแฟอาราบิก้าจากโคลัมเบีย และเอธิโอเปีย แบบ Natural Process ให้ความสว่างของกาแฟแบบ Bright Acidity ได้ความเปรี้ยวสดชื่นของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ลูกพรุน พีช ออกหวานปลายๆ มีความเป็น Floral อยู่ใน Aftertaste เหมาะกับเมนูกาแฟดำ

.

Home Compostable Coffee Capsule_all.jpg
สำหรับผู้ที่สนใจแบบครบเซตขอแนะนำ เครื่องกาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย (Punthai Coffee Capsule Machine) ตอบโจทย์ทั้งความสะดวก สบาย ประหยัดเวลา ได้รสชาติเหมือนดื่มที่ร้าน ในราคาที่คุ้มค่า มีทั้งสีดำ และสีโรส โกลด์ ด้วยแรงดันน้ำ 19 บาร์ สามารถสกัดกาแฟได้ภายใน 1 นาที เลือกปริมาณน้ำได้ทั้ง 40 มิลลิลิตร และ 110 มิลลิลิตร ในราคาเครื่องละ 2,999 บาท โปรโมชั่นช่วงเปิดตัว ซื้อเครื่องกาแฟแคปซูล 1 เครื่อง รับฟรี กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย ดาร์กโรสต์ 1 กล่อง มูลค่า 200 บาท หรือผู้ที่มีเครื่องอยู่แล้ว สามารถรับสิทธิ์ซื้อกาแฟแคปซูลครบ 4 กล่อง รับฟรี กาแฟแคปซูลรสชาติใดก็ได้ 1 กล่อง ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2567 – 15 กรกฎาคม 2567 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด ที่ร้านกาแฟพันธุ์ไทยทุกสาขาที่ร่วมรายการทั่วประเทศ

.

กาแฟพันธุ์ไทย มี Brand DNA ที่ชัดเจน ในการสนับสนุนชุมชนและเกษตรกรไทย ควบคู่การดูแลสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เช่น การจัดตั้งโครงการพัฒนาและส่งเสริมการปลูกกาแฟอะราบิก้าบนพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน เพื่อส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ในการปลูกกาแฟให้เกษตรกร ต.ปางหินฝน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ โดยปรับเปลี่ยนพื้นที่ทำไร่เลื่อนลอยมาเพิ่มพื้นที่ปลูกกาแฟ และเปลี่ยนเขาหัวโล้นให้เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ การใช้ไบโอพลาสติกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ มาพัฒนาเป็นแก้วเครื่องดื่มพันธุ์ไทยที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและโลกของเรา ความร่วมมือกับนักอนุรักษ์ธรรมชาติที่สร้างสรรค์กาแฟไปพร้อมๆ กับการปลูกป่า พร้อมสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ชุมชนให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงชีวิตที่ อยู่ดี มีสุข อย่างมั่นคง และขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตต่อไป

.

“สำหรับแคมเปญนี้ พันธุ์ไทยมีการสื่อสารการตลาดในทุกช่องทาง ทั้ง Online และ Offline สร้างคอนเทนต์บน Social Media ต่างๆ สร้างการรับรู้ผ่าน KOLs ที่มีไลฟ์สไตล์เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ หรือแม้แต่ Out of Home Media (OOH) เพิ่มการมองเห็นผ่าน Key Visual บนบิลบอร์ดตามจุดต่างๆ ของกรุงเทพฯ รวมถึงกิจกรรม On Ground ส่งมอบประสบการณ์การดื่มด่ำเมล็ดกาแฟพิเศษ ในย่าน CBD เจาะกลุ่มคนทำงาน คนรุ่นใหม่ ที่ชื่นชอบความรวดเร็ว สะดวกสบาย พร้อมสร้างเครือข่าย GenZerO หรือ Community ของคนพันธุ์ไทยหัวใจรักษ์โลก ที่มีไลฟ์สไตล์ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและขยายฐานลูกค้าใหม่ได้มากขึ้น” สุขวสา กล่าวเสริม

ที่มา : mgronline https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9670000042160