แฟ้มภาพ: ปากกาฉีดยาลดน้ำหนัก Wegovy ของบริษัท Novo Nordisk อยู่ในภาพที่จัดแสดงที่กรุงออสโล นอร์เวย์

บริษัทที่ปรึกษาด้านสุขภาพ Mercer คาดการณ์ว่าความต้องการผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักและยาเกี่ยวกับโรคเบาหวาน จะเป็นปัจจัยเร่งให้ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพให้กับนายจ้างอเมริกันพุ่งสูงขึ้นในปีหน้า ตามรายงานของรอยเตอร์

.

สุนิต พาเทล หัวหน้านักคณิตศาสตร์ประกันภัย บริษัทที่ปรึกษาด้านสุขภาพ Mercer ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า การที่สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ อนุมัติยาประเภท Glucagon Like Peptide-1 หรือ GLP-1 ซึ่งเป็นฮอร์โมนต้านเบาหวานและโรคอ้วน จะทำให้ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้นราว 0.5-1%

.

นายจ้างอเมริกันได้ตั้งงบประมาณค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของบรรดาพนักงานเพิ่มขึ้นราว 5.2% ในปีหน้า อ้างอิงจากการสำรวจของ Mercer ที่สอบถามนายจ้างอเมริกันเกือบ 1,900 คน ซึ่งเป็นกลุ่มตัวอย่างของนายจ้างสหรัฐฯ 134,000 คนที่มีแพคเกจประกันสุขภาพให้กับลูกจ้าง

.

การสำรวจยังพบว่า การใช้ยา GLP-1 มีผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดต่อต้นทุนค่ายาที่เพิ่มขึ้นภายใต้แผนประกันสุขภาพรูปแบบดังกล่าว โดยในปี 2023 ต้นทุนค่ายาเพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสูงกว่าเมื่อปี 2022 ที่มีต้นทุนค่ายาเพิ่มขึ้น 6.4%

.

ยาประเภท GLP-1 จะช่วยลดความอยากอาหารและทำให้ผู้ใช้ยารู้สึกอิ่มได้นานขึ้น สนนราคา 1,000 ดอลลาร์ต่อคนต่อเดือน

.

เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน สหรัฐฯ และอังกฤษ อนุมัติยาลดน้ำหนักของบริษัท Eli Lilly และเปิดทางที่จะอนุมัติยาลักษณะนี้ให้แก่บริษัท Novo Nordisk ด้วยเช่นกัน โดยมีการประเมินว่ายากลุ่มนี้จะมียอดขายถึง 100,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีภายในปี 2030

.

ระหว่างที่นายจ้างจะต้องสนับสนุนประกันสุขภาพพนักงานที่ครอบคลุมการใช้ยา GLP-1 สำหรับการรักษาเบาหวาน ตอนนี้เริ่มมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับเงื่อนไขประกันสุขภาพสำหรับผู้ป่วยโรคอ้วนแล้ว

.

โดยปัจจุบัน ราว 40% ของนายจ้างอเมริกันสนับสนุนประกันสุขภาพที่ครอบคลุมยาชนิดดังกล่าวเพื่อรักษาโรคอ้วน และอีก 19% อยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะบรรจุยาดังกล่าวไว้ในประกันสุขภาพ

ที่มา : voathai https://www.voathai.com/a/boom-in-weight-loss-drugs-to-drive-up-us-employers-medical-costs-in-2024---mercer/7359864.html