ภาพกราฟฟิกสภาพบรรรยากาศโลก

องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ นาซ่า (NASA) และบริษัทเอกชนด้านธุรกิจการขนส่งทางอวกาศ สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) เพิ่งร่วมมือกันดำเนินการสำรวจโลกเพื่อศึกษาสิ่งแวดล้อมภายใต้แผนงานที่ไม่มีเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์

.

ในความร่วมมือดังกล่าว นาซ่าและสเปซเอ็กซ์ปล่อยจรวดฟัลคอนไนน์ (Falcon 9) จากแหลมคาแนเวอรัล (Cape Canaveral) ในรัฐฟลอริดา โดยจรวดลำดังกล่าวบรรทุกดาวเทียมสำรวจโลกรุ่นล่าสุดของ NASA ที่เรียกกันว่า "PACE" ซึ่งย่อมาจาก Plankton, Aerosol, Cloud, ocean Ecosystem และมีภารกิจเป้าหมายเพื่อทำการสำรวจและเก็บข้อมูลทรัพยากรน้ำและอากาศของผืนโลก

.

เจเรมี เวอร์เดลล์ นักวิทยาศาสตร์จากโครงการ PACE ศูนย์ Goddard Space Flight Center (GSFC)

เจเรมี เวอร์เดลล์ นักวิทยาศาสตร์จากโครงการ PACE ศูนย์ Goddard Space Flight Center (GSFC) ที่ตั้งในเมืองกรีนเบลท์ (Greenbelt) รัฐแมรีแลนด์ ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอว่า “ภารกิจ PACE ของ NASA ถือเป็นการลงทุนครั้งยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นลำดับถัดมาขององค์กรในการศึกษาทั้งท้องฟ้าและท้องทะเล”

.

ดาวเทียม PACE

เวอร์เดลล์ อธิบายด้วยว่า ดาวเทียม PACE ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อค้นหา “อนุภาคระดับจุลภาค” ที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น และมักปรากฏอยู่ในรูปของละอองแขวนลอยในชั้นบรรยากาศ เป็นอนุภาคต่าง ๆ เช่น ละอองเกสรดอกไม้ ละอองทะเล (sea spray) มลพิษ หรือแม้กระทั่งละอองเถ้าจากภูเขาไฟ

.

นอกจากนี้ ดาวเทียมที่ส่งขึ้นไปกับจรวด Falcon 9 ยังมีภารกิจเพื่อติดตามและวิเคราะห์ “แพลงก์ตอนพืช” (Phytoplankton) สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ช่วยผลิตออกซิเจนประมาณ 50% ที่มนุษย์ใช้ในการหายใจ

.

อนุภาคระดับจุลภาค

นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์ GSFC ท่านนี้เสริมว่า ศักยภาพของดาวเทียม PACE ทำให้เรารู้ว่า มีชุมชนแพลงก์ตอนพืชอะไรบ้าง ประโยชน์ต่าง ๆ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของแพลงก์ตอนเมื่ออยู่ในสภาวะและเวลาที่แตกต่างกัน และยังช่วยในการศึกษาการแพร่กระจายของแพลงก์ตอนที่เป็นอันตรายอีกด้วย

.

ทั้งนี้ การสังเกตการณ์ของโครงการ PACE จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์มีความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อโลก อันจะเป็นแนวทางตัดสินใจสำหรับนโยบายและบรรเทาผลกระทบเชิงลบ

.

เวอร์เดลล์ ชี้ด้วยว่า ดาวเทียมที่ส่งขึ้นไปเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยซึ่งสามารถสำรวจและเก็บข้อมูลได้อย่างมหาศาลเกินกว่าที่จะประเมินได้ และเขายังเผยว่า ปริมาณและความสมบูรณ์ของเนื้อหาที่ได้มาจากดาวเทียมนี้จะนำไปสู่ยุคใหม่ของการจัดการข้อมูลในแวดวงวิทยาศาสตร์ ในระบบ Machine Learning และการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ด้วย

.

ดาวเทียม PACE ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ปฏิบัติการในอวกาศเป็นเวลานานสามปี แต่เหล่านักวิทยาศาสตร์หวังว่า ดาวเทียมดวงนี้จะคงอยู่ไปได้อย่างน้อยหนึ่งทศวรรษเพื่อช่วยเก็บข้อมูลสำคัญที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้

ที่มา : voathai https://www.voathai.com/a/nasa-spacex-join-forces-to-study-earth-s-environment/7590012.html