นาโนเทค ร่วมกับภาคเอกชน เดินหน้านำนาโนเทคโนโลยีไฮโดรเจลอาหารลูกกุ้งสูตรไร้ปลาป่น ยืดอายุ ไม่เน่าเสียเร็ว สร้างมูลค่าเพิ่มให้อุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำ

ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ บริษัท บานตะไท จำกัด พัฒนาไฮโดรเจลอาหารลูกกุ้งสูตรไร้ปลาป่น และทดลองใช้งานจริงสูตรเลี้ยงลูกกุ้งดังกล่าว ที่ ‘ชุติกาญจน์ฟาร์ม’ จ.ฉะเชิงเทรา ฟาร์มเพาะเลี้ยงลูกกุ้งต้นแบบโดย บริษัท ไทยยูเนี่ยน แฮชเชอรี่ จำกัด
ทีมวิจัยได้พัฒนาสูตรอาหารเลี้ยงลูกกุ้งแบบไร้ปลาป่น โดยใช้เทคโนโลยีการกักเก็บสารสำคัญในโครงสร้างแบบเจล เพิ่มความสามารถดูดซึมให้กับลูกกุ้ง ยืดอายุให้ไม่เน่าเสียเร็ว และกระตุ้นการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำได้เป็นอย่างดี ตอบโจทย์ความมั่นคงทางอาหารตามข้อกำหนดสหภาพยุโรปในการลดการใช้ปลาป่นเป็นอาหารสัตว์น้ำ
ดร.ภาวดี อังค์วัฒนะ รองผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สวทช.เปิดเผยว่า นาโนเทคมีศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้อุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยมีมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการกักเก็บที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เช่น อุตสาหกรรมอาหารและอาหารเสริม ยา รวมไปถึงอาหารสัตว์
ในส่วนของ ‘ไฮโดรเจลอาหารลูกกุ้งสูตรไร้ปลาป่น’ เป็นหนึ่งในผลงานที่ทีมวิจัยได้พัฒนากระบวนการในการพัฒนาสูตรอาหารลูกกุ้งที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการดูดซึม ยืดอายุให้ไม่เน่าเสียเร็ว และลดปัญหาข้อจำกัดการใช้วัตถุดิบทดแทนปลาป่น จากโจทย์วิจัยจากภาคอุตสาหกรรมที่มีความต้องการพัฒนากระบวนการผลิตและสูตรอาหารลูกกุ้งที่สามารถรองรับความต้องการของตลาดในอนาคต
"คาดว่างานวิจัยชิ้นนี้จะช่วยยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำของไทยให้สามารถต่อยอดสู่การใช้งานในอุตสาหกรรมสัตว์น้ำได้อย่างครอบคลุม ตอบโจทย์ความมั่นคงทางอาหารตามข้อกำหนดของสหภาพยุโรป (EU) ที่ลดการใช้ปลาป่นเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์น้ำ” ดร.ภาวดีกล่าว
ปัจจุบันนาโนเทคพัฒนาเทคโนโลยีการกักเก็บสารสำคัญ (Encapsulation) เพื่อนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เพิ่มมากขึ้น ทั้งการเลี้ยงปศุสัตว์และการประมง ซึ่งปัญหาสำคัญของอาหารสัตว์ในอุตสาหกรรมประมงคือ สารสำคัญที่อยู่ในรูปสารละลายที่มีความคงตัวต่ำ และสัตว์น้ำไม่สามารถกินสารสำคัญที่อยู่ในรูปสารละลายได้ รวมถึงปัญหาเรื่องการสูญเสียของสารสำคัญ เนื่องจากการชะล้างและการย่อยสลายของอาหารที่เกิดขึ้นก่อนที่สัตว์น้ำจะกินเข้าไป
"เทคโนโลยีการกักเก็บสารสำคัญช่วยลดปัญหาการให้อาหารในสัตว์น้ำ พร้อมทั้งสามารถเติมสารสำคัญอื่นได้มากกว่าอาหารที่มีในท้องตลาด ที่จะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำได้ โดยเลือกใช้โปรตีนและเปปไทด์ ที่ย่อยง่ายมาขึ้นรูปเพื่อกักเก็บสารอาหารไว้ในโครงสร้างแบบวุ้น ไม่ให้ละลายน้ำได้ง่ายจนเกินไป รวมถึงยังมีจุดเด่นในเรื่องการสามารถปรับองค์ประกอบ และลักษณะทางกายภาพ ให้ใช้กับสัตว์น้ำได้ทุกวัย ให้มีประสิทธิภาพการย่อยและองค์ประกอบของโปรตีนที่ดีขึ้น ซึ่งนวัตกรรมไฮโดรเจลอาหารลูกกุ้ง จะสามารถต่อยอดสู่อาหารอื่นๆ ได้หลากหลาย"
ด้านภาคเอกชน นายบัณฑูร สายวิไล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บานตะไท จำกัด ผู้ประกอบการขายส่งวัตถุดิบทางการเกษตร กล่าวว่า นวัตกรรมไฮโดรเจลอาหารลูกกุ้งกำลังขยายผลไปใช้ในฟาร์มอื่นภายใต้การสนับสนุนจากกรมประมง เพื่อให้ครอบคลุมทั้งวงจร ตั้งแต่กุ้งวัยอนุบาล (ต้นน้ำ) กุ้งเนอสเซอรี่ (กลางน้ำ) กุ้งบ่อดิน (ปลายน้ำ) รวมถึงให้ครอบคลุมสัตว์น้ำทุกชนิด หากประสบผลสำเร็จตามความคาดหมาย จะนำเสนอต่อหน่วยงานภาครัฐ เพื่อกำหนดมาตรฐานสำหรับอาหารที่ใช้ในการเพาะเลี้ยงกุ้งขึ้นมาใหม่
"นับเป็นการยกระดับขีดความสามารถของเกษตรกรไทย เพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก และสร้างมูลค่าเพิ่มในผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำให้แก่เกษตรกรในประเทศ และผู้ส่งออกกุ้งแช่แข็ง ช่วยเพิ่ม GDP ให้ประเทศไทย รวมถึงช่วยรักษาทรัพยากรทางทะเลในแง่ความมั่นคงทางด้านอาหาร และลดปริมาณการใช้ปลาป่น"
นายบัณฑูร ระบุถึงผลทดสอบในเบื้องต้นพบว่า มีแนวโน้มที่ดีในการพัฒนาต่อยอดสำหรับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทุกชนิด และยังสามารถผลักดันให้เกิดการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบความหนาแน่นสูงได้อีกด้วย เนื่องจากอาหารชนิดไฮโดรเจลลดปัญหามลภาวะทางน้ำลงได้มากกว่าอาหารทั่วไป นอกจากนี้ อาหารไฮโดรเจลสูตรไร้ปลาป่น จะทำให้ไทยเป็นประเทศที่สามารถเพาะเลี้ยงกุ้งครบวงจรด้วยอาหารที่ปราศจากปลาป่นได้สำเร็จในเชิงพาณิชย์ คาดว่าจะช่วยให้ประเทศไทยกลับมาครองตลาดส่งออกกุ้งแช่แข็ง และเป็นผู้นำทางการตลาดโลกได้อีกครั้ง
ขณะที่ผู้ประกอบการฟาร์มเพาะเลี้ยงลูกกุ้ง นายชัยเจริญ ลิ้มเจริญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน แฮชเชอรี่ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้นำสูตรอาหารไฮโดรเจล มาเลี้ยงลูกกุ้งทดแทนปลาป่น เนื่องจากการผลิตอาหารกุ้งแบบเดิมมีข้อจำกัดในการคงรูปในน้ำได้ไม่นาน มีการสลายตัวค่อนข้างเร็วถ้าใช้วัตถุดิบที่เป็นโปรตีนโมเลกุลเล็ก
“ส่วนอาหารกุ้งที่ผลิตด้วยไฮโดรเจล พบว่า ตัวกุ้งสามารถนำสารอาหารไปใช้ในการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ คุณภาพน้ำค่อนข้างนิ่ง เพราะของเสียที่เกิดจากกากน้อยลง น้ำไม่เสียง่าย เลี้ยงกุ้งได้นานขึ้น กุ้งมีขนาดใหญ่ขึ้น ราคาขายจึงดีตามมาด้วยเช่นกัน” นายชัยเจริญกล่าว

ที่มา :  Manager online 21 พฤษภาคม 2562 [https://mgronline.com/science/detail/9620000048358]