องค์การอนามัยโลกประกาศระงับการทดสอบประสิทธิภาพทางคลินิกของยาไฮดรอกซีคลอโรควิน โดยให้น้ำหนักตามงานวิจัยว่า ยาดังกล่าว "ไม่เหมาะอย่างยิ่ง" ที่จะใช้รักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพราะยิ่งเพิ่มแนวโน้มการเสียชีวิต

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ว่านพ.เทดรอส แอดนาฮอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) แถลงเมื่อวันจันทร์ ว่าดับเบิลยูเอชโอนำยาไฮดรอกซีคลอโรควิน ซึ่งเป็นหนึ่งในยาที่ใช้ในการรักษาโรคมาลาเรีย ออกจากกระบวนการทดสอบประสิทธิภาพทางคลินิก "ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย"
 ทั้งนี้ นพ.เทดรอสกล่าวถึงหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ประกบอบการตัดสินใจดังกล่าว ว่าเกี่ยวข้องกับผลงานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารการแพทย์ "แลนเซ็ต" เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าการใช้ยาไฮดรอกซีคลอโรควินหรือยาคลอโรควินกับผู้ป่วยซึ่งมีอาการหนักจากโควิด-19 กลายเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของการเสียชีวิต บ่งชี้ว่ายาชนิดนี้อาจไม่เหมาะที่จะใช้เพื่อการรักษาโรคจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
อย่างไรก็ตาม นพ.เทดรอสย้ำว่าระงับเพียงการทดลองใช้ยาไฮดรอกซีคลอโรควินเท่านั้น อนึ่ง ดับเบิลยูเอชโอเปิดเผยเมื่อปลายเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา เรื่องการสอบการใช้ยา 4 แบบ "ซึ่งมีความเป็นได้สูง" ว่าสรรพคุณของยาเหล่านั้นจะช่วยบรรเทาอาการป่วยจากโรคโควิด-19 โดยนอกจากยาไฮดรอกซีคลอโรควินและยาคลอโรควินแล้ว ยังมียาเรมเดซิเวียร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในยาต้านเชื้อไวรัส และการใช้ยาต้านไวรัสเอชไอวี ที่เป็นสูตรการผสมผสานระหว่างยาโลพินาเวียร์กับยาริโตนาเวียร์
ความเคลื่อนไหวของดับเบิลยูเอชโอเกิดขึ้นหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าเขารับประทานยาไฮดรอกซีคลอโรควินวันละ 1 เม็ด ร่วมกับการรับประทานอาหารเสริมแบบเม็ดคือสังกะสี เพื่อป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยยืนยัน "ความเชื่อมั่น" ในประสิทธิภาพ และ "ข้อมูลเชิงบวกมากมาย" เกี่ยวกับยาไฮดรอกซีคลอโรควิน
กระนั้นผู้นำสหรัฐกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่าเขายุติการใช้ยาไฮดรอกซีคลอโรควินแล้ว "เพราะครบกำหนด" ซึ่งทรัมป์ไม่เคยกล่าวอย่างชัดเจนว่าเขารับประทานยาชนิดนี้ตั้งแต่เมื่อใด โดยเผยเพียงว่า "นานหลายสัปดาห์ก่อนหน้านั้น".


ที่มา : Dailynews 26 พฤษภาคม 2563  [https://www.dailynews.co.th/foreign/776503]