จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิดบ้านต้อนรับผู้นำทางการศึกษาจากทั่วโลกที่เข้าร่วมการประชุมสัมมนาทางไกล “The ASAIHL Online World Congress 2020” (AOWC-2020) จัดโดยสมาคมสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASAIHL) ร่วมกับที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ในหัวข้อ “COVID-19: the Global New Reality”
งานนี้มีนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในและต่างประเทศนำเสนอมุมมองต่อผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 ซึ่งส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกในทุกมิติ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือโลกในอนาคตที่เปลี่ยนแปลงภายหลังสถานการณ์ COVID-19 ผ่านไป โดยที่จุฬาฯ ได้แสดงศักยภาพในการพัฒนาวัคซีนที่ล้ำหน้า และแสดงนวัตกรรมสู้ COVID-19 ที่โดดเด่นหลากหลาย
ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดี จุฬาฯ กล่าวว่า “จุฬาฯ ยินดีต้อนรับอาคันตุกะ ผู้นำทางวิชาการทั่วโลก และพร้อมทำหน้าที่แก้ปัญหาวิกฤต COVID-19 ด้วยผลงานวิจัยและนวัตกรรมของจุฬาฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาวัคซีนป้องกัน COVID-19 โดยศูนย์วิจัยวัคซีน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับองค์กรพันธมิตร ซึ่งล่าสุดได้พัฒนาก้าวหน้าจนสามารถทดลองฉีดในลิงได้เป็นที่แรกในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีผลงานนวัตกรรมจากจุฬาฯ เพื่อสู้ COVID-19 มากมาย เช่น ‘Chula Baiya Strip Test’ ระบบตรวจคัดกรองเชื้อ COVID-19 เบื้องต้นแบบรวดเร็วที่สุดของไทย ‘หุ่นยนต์ปิ่นโต กระจก และนินจา’ ที่ช่วยดูแลผู้ป่วยได้หลากหลายรูปแบบ ลดความเสี่ยงของบุคลากรทางการแพทย์ต่อการติดเชื้อ ‘ชีลด์พลัส โพรเทคติ้ง สเปรย์’ ที่ใช้ฉีดหน้ากากผ้าเพื่อป้องกันเชื้อ COVID-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้หน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้งที่ขาดแคลนและมีราคาสูง ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและลดความเสี่ยงแก่ คนไทย”
ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยวัคซีน COVID-19 คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ วิทยากรในการประชุมสัมมนาทางไกลครั้งนี้ เผยถึงความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนป้องกัน COVID-19 ว่า ทางศูนย์ฯ ได้เลือกใช้เทคโนโลยี mRNA ในการพัฒนาวัคซีน ซึ่งจากการทดลองในหนูพบว่าสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ผลเป็นอย่างดี และล่าสุดได้เริ่มมีการทดลองวัคซีนในลิง ซึ่งคาดว่าปลายเดือนมิถุนายน น่าจะทราบผลเบื้องต้น ถือว่าเป็นการพัฒนาวัคซีนป้องกัน COVID-19 ที่ก้าวหน้าที่สุดในไทย
“ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ มุ่งมั่นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านวัคซีน และยาแก่สังคมไทยมายาวนาน ด้วยความเชื่อมั่นว่า ‘ประเทศไทยไม่ควรรอซื้ออย่างเดียว แต่ควรเป็น ผู้ร่วมสร้างด้วย’ ครั้งนี้นับเป็นความสำเร็จอีกขั้นที่สามารถพัฒนาวัคซีนป้องกัน COVID-19 จนถึงขั้นทดลองฉีดในลิงได้เป็นแห่งแรกในไทย ทั้งนี้เทคโนโลยีใหม่ที่ใช้พัฒนาวัคซีนเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กับมหาวิทยาลัยระดับโลกคือ University of Pennsylvania ประเทศสหรัฐอเมริกา และองค์กรพันธมิตร โดยได้รับทุนวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติ และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เพื่อการสรรสร้างนวัตกรรมเพื่อดูแลสังคมไทยของเรา” ศ.นพ.เกียรติ กล่าว
สำหรับนโยบายของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในด้านการพัฒนาผลงานวิจัยเพื่อตอบโจทย์ของประเทศนั้น ภญ.พุทธิมน ศรีบนฟ้า CEO และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท แนบโซลูท จำกัด บริษัทสตาร์ทอัพภายใต้การบ่มเพาะของศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาฯ (CU Innovation Hub) ซึ่งพัฒนานวัตกรรม “ชีลด์พลัส โพรเทคติ้ง สเปรย์” ใช้ฉีดหน้ากากผ้าเพื่อป้องกันเชื้อ COVID-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ กล่าวถึงนวัตกรรมดังกล่าวว่า ยินดีที่เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ผลงานวิจัยของอาจารย์จุฬาฯ เกิดประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้าง ซึ่งความภูมิใจที่เกิดขึ้นมีค่ามากกว่าผลตอบแทนเป็นตัวเงิน
“การเป็นบริษัทสตาร์ทอัพทำให้เรามีความคล่องตัวในการดำเนินงาน สร้างประสิทธิภาพในการกระจายนวัตกรรมที่ช่วยบรรเทาปัญหาของสังคม นอกจากนั้นบริษัทยังให้น้องๆ นิสิตจุฬาฯ ได้มาเรียนรู้และทำงานวิจัยร่วมกัน ถือเป็นการบูรณาการความรู้ที่เรียนมากับชีวิตจริง และได้ปลูกฝังค่านิยมดูแลสังคมให้แก่นิสิตด้วย” ภญ.พุทธิมน กล่าว
ที่มา : Manager online 30 พฤษภาคม 2530 [https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9630000056425]