สวทช.ร่วมกับสมาคมส่งเสริมธุรกิจบริการผู้สูงอายุไทย ขยายผลการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดูแลผู้สูงอายุ
เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2562 ที่ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (บางนา) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และสมาคมส่งเสริมธุรกิจบริการผู้สูงอายุไทย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วย “การพัฒนาและขยายผลการใช้ประโยชน์ระบบบริหารสถานดูแลผู้สูงอายุ” เพื่อเป็นการยกระดับการดูแลและการให้บริการผู้สูงอายุในสถานดูแลผู้สูงอายุ ที่เป็นสมาชิกของสมาคมส่งเสริมธุรกิจบริการผู้สูงอายุไทย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.กัลยา อุดมวิทิต รองผู้อำนวย เนคเทค -สวทช. กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าว จะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุให้ได้รับการดูแลที่ดี ด้วยการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อผู้สูงอายุที่เหมาะสม ทั้งยังเป็นการยกระดับขีดความสามารถด้านการวิจัย พัฒนาทางด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อผู้สูงอายุ เพื่อสร้างอุตสาหกรรมการบริการและดูแลผู้สูงอายุของประเทศให้มีศักยภาพในการรองรับสังคมผู้สูงวัยในอนาคต
ทั้งนี้ สวทช. โดย ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี ร่วมกับ ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกและเครื่องมือแพทย์ (A-MED) ดำเนินการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อผู้สูงอายุ และร่วมมือกับ สมาคมส่งเสริมธุรกิจบริการผู้สูงอายุไทย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานธุรกิจบริการผู้สูงอายุไทยของผู้ประกอบการกิจการผู้สูงอายุในประเทศ เพื่อนำระบบบริหารสถานดูแลผู้สูงอายุไปใช้งาน โดยมุ่งหวังให้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่พัฒนาโดยนักนวัตกร และนักวิจัยไทย สามารถนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการพัฒนาธุรกิจการให้บริการและดูแลผู้สูงอายุ และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ทั้งผู้ดูแลผู้สูงอายุ และผู้สูงอายุได้อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ดี ทีมนักวิจัยศูนย์วิจัย A-MED และ สมาคมส่งเสริมธุรกิจบริการผู้สูงอายุไทย ได้นำระบบบริหารสถานดูแลผู้สูงอายุ ไปใช้ในระยะนำร่องปี 2562 ที่บ้านทิพย์รดาเอลเดอรี่แคร์ ซึ่งมีความพร้อมในการร่วมพัฒนาและขยายผลการใช้งาน ร่วมกับทีมวิจัย ฯ
“จากการที่ได้สำรวจพื้นที่และความต้องการในเบื้องต้น จึงมีแผนพัฒนาระบบ เช่น ระบบบริหารจัดการข้อมูลสุขภาพของผู้สูงอายุ ข้อมูลทางสุขภาพของผู้สูงอายุจะได้รับการติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด โดยจะมีการพัฒนาเครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูลทางสุขภาพในรายบุคคล และจะแจ้งเตือน หรือแนะนำผู้ดูแลให้ดำเนินการแก้ไขได้อย่างเหมาะสม ระบบบริหารการดูแลผู้สูงอายุ (Care Plan Management) เป็นเครื่องมือในการช่วยการวางแผน ติดตาม ควบคุมคุณภาพ การดูแลผู้สูงอายุ สร้างความมั่นใจในบริการ สำหรับญาติหรือผู้เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ ระบบบริหารจัดการด้านโภชนาการของผู้สูงอายุ เพื่อคำนวณอาหารที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ที่ได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์และครบถ้วน และ ระบบแจ้งเหตุฉุกเฉิน ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น ผู้ดูแลสถานดูแลสามารถแจ้งไปที่สายด่วน 1669 ซึ่งจะมีการส่งข้อมูลพิกัดสถานดูแลผู้สูงอายุ พร้อมกับข้อมูลพื้นฐานทางสุขภาพของผู้สูงอายุไปพร้อมกันด้วย ทำให้การตอบสนองให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น”
การร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญในการนำงานวิจัยไปพัฒนาต่อยอดและร่วมแก้ปัญหาที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งาน อีกทั้งยังสามารถขยายผลให้ครอบคลุมไปยังผู้ประกอบการกิจการผู้สูงอายุรายอื่น ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมส่งเสริมธุรกิจบริการผู้สูงอายุไทย อีกกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ
ที่มา : Dailynews online 13 กรกฏาคม 2562 [https://www.dailynews.co.th/it/7201555]