มื่อเร็วๆ นี้ สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ได้ตอกย้ำคำตอบสิ่งทดแทนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (single-use plastic) ว่ายังไม่ตรงไปตรงมาในการแก้ปัญหา แต่ให้คำแนะนำ : นำถุงที่ทุกคนมีอยู่ที่บ้านกลับมาใช้ใหม่ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

.

Katie Hunt จากซีเอ็นเอ็น บอกว่า “การต่อสู้กับถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวอาจไม่สามารถเอาชนะได้ทันที แต่กำลังดำเนินการอยู่อย่างแน่นอน”

.

มีการจำกัดการใช้งานในเกือบสิบรัฐของสหรัฐอเมริกาและอีกหลายประเทศทั่วโลก และในหลายกรณี ความพยายามเหล่านี้ประสบความสำเร็จในการจำกัดยอดขายใหม่ของถุงพลาสติกขนาดเล็กที่ลอยขึ้นไปบนต้นไม้ อุดตันทางน้ำ ดูดไมโครพลาสติกลงในดินและน้ำ และเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล (แน่นอนว่าข้อจำกัดเหล่านี้ไม่ได้กล่าวถึงถุงพลาสติกที่มีอยู่แล้วซึ่งต้องใช้เวลาหลายศตวรรษในการย่อยสลาย)

.

ความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมที่ถูกปิดบังปัญหาอื่น

พวกเราหลายคนจมอยู่กับความสำเร็จของถุงที่ใช้ซ้ำได้ เช่น ถุงผ้าหรือถุงพลาสติกที่หนาและทนทานกว่า ซึ่งร้านค้าปลีกขายในราคาถูก หรือแจกฟรีให้ลูกค้าใช้เป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (ฉันมีกระเป๋าผ้าฝ้าย 15 ใบและถุงพลาสติกสำหรับงานหนัก 12 ใบเก็บไว้ในลิ้นชักในครัว มีเพียงไม่กี่ใบเท่านั้นที่มองเห็นแสงสว่างของวัน)

.

นักรณรงค์กล่าวว่าการกักตุนถุงเหล่านี้กำลังสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อมใหม่ โดยถุงที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้จะมีคาร์บอนฟุตพริ้นท์สูงกว่าถุงพลาสติกแบบบางมาก จากการประมาณการที่สะดุดตา ควรใช้ถุงผ้าฝ้ายอย่างน้อย 7,100 ครั้งเพื่อให้เป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริงแทนถุงพลาสติกทั่วไป

.

คำตอบสำหรับสิ่งทดแทนถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุดนั้นไม่ตรงไปตรงมา แต่คำแนะนำสรุปได้คือ นำถุงที่คุณมีที่บ้านกลับมาใช้ใหม่ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

.

ผลที่ตามมาของการห้ามใช้ถุงพลาสติก

การห้ามโดยเจตนาดีและการจำกัดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวในบางกรณีอาจส่งผลที่ไม่ได้ตั้งใจ

.

ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ การห้ามใช้ถุงพลาสติกและกระดาษแบบใช้ครั้งเดียวในปี 2565 หมายความว่าบริการจัดส่งของชำได้เปลี่ยนไปใช้ถุงที่มีน้ำหนักมาก ลูกค้าของพวกเขาบ่นว่ามีถุงที่ใช้ซ้ำได้จำนวนมากและใช้งานหนักจนไม่รู้ว่าใช้ทำอะไร

.

ในขณะที่สหราชอาณาจักรพบว่าคนซื้อถุงผ้าหรือถุงชอปปิงพลาสติกแบบหนาแบบใช้ซ้ำได้ลดลงจากปี 2557 ซึ่งเป็นปีที่มีการเรียกเก็บค่าถุงพลาสติกแบบครั้งเดียวใช้แล้วทิ้ง กรีนพีซได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าในปี 2562 ซูเปอร์มาร์เก็ตในสหราชอาณาจักรขายถุงชอปปิงพลาสติกแบบหนาที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้หรือที่เรียกว่า ‘ถุงเพื่อชีวิต’ ที่ 1.58 พันล้านใบ เทียบเท่ากับ 57 ใบต่อครัวเรือน และมากกว่า 1 ถุงต่อสัปดาห์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบกับปี 2561

.

หรือบางกรณีที่ลืมถุงชอปปิงแล้วซื้อใบใหม่ด้วยความคิดว่าอย่างน้อยก็ดีกว่าซื้อถุงพลาสติกแบบบาง แต่หากลืมมากกว่า 1 ครั้ง นั่นเท่ากับกลายเป็นคนสะสมถุงชอปปิงพลาสติกโดยไม่รู้ตัว

.

นี่แสดงว่าการนำเสนอถุงพลาสติกที่หนาขึ้นเพื่อสนับสนุนการใช้ซ้ำนั้นยังไม่ได้ผล

ที่มา : mgronline https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9660000025126