มีความเชื่ออยู่ว่าลายนิ้วมือจากแต่ละนิ้วที่อยู่บนมือของคน ๆ หนึ่งนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ตอนนี้ความเชื่อดังกล่าวกำลังถูกท้ายทายด้วยงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคลอมเบีย

.

ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ แห่งนี้ ได้ฝึกฝนเครื่องมือเอไอให้ตรวจสอบลายนิ้วมือกว่า 60,000 ชิ้น เพื่อดูว่าเอไอจะสามารถบอกได้หรือไม่ว่าลายนิ้วมือใดบ้างที่มาจากบุคคลคนเดียวกัน

.

ทีมนักวิจัยอ้างว่า เทคโนโลยีดังกล่าวสามารถระบุได้ว่า ลายนิ้วมือที่แตกต่างกันอันไหนบ้างที่มาจากบุคคลคนเดียวกันด้วยความแม่นยำถึง 75% อย่างไรก็ตาม พวกเขายังไม่มั่นใจนักว่าเอไอดังกล่าวมีกลไกการวิเคราะห์ลายนิ้วมืออย่างไร

.

"เรายังไม่รู้แน่ชัดนักว่าเอไอดังกล่าวทำงานอย่างไร" ศาสตราจารย์ฮอด ลิปสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์จากมหาวิทยาลัยโคลอมเบีย ซึ่งดูแลงานศึกษาดังกล่าว ยอมรับ

.

นิติวิทยาศาสตร์

.
นักวิจัยคิดว่าเอไอตัวดังกล่าวทำการวิเคราะห์ลายนิ้วมือในรูปแบบที่ต่างออกไปจากวิธีมาตรฐานดั้งเดิม ทั้งนี้ วิธีการวิเคราะห์ลายนิ้วมือมาตรฐานจะโฟกัสไปที่ทิศทางการวางตัวของเส้นนูนที่บริเวณกึ่งกลางของนิ้ว และไม่ได้ให้ความสำคัญมากนักกับการสิ้นสุดลงและการแตกแขนงของเส้นนูน หรือที่รู้จักกันว่าคือ จุดที่แสดงลักษณะสำคัญ (minutiae) บนลายนิ้วมือ

.

"เป็นที่ชัดเจนว่ามันไม่ได้ใช้วิธีการวิเคราะห์ดั้งเดิมที่กระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ใช้มานานหลายทศวรรษ" ศาสตราจารย์ลิปสัน กล่าว "ดูเหมือนว่ามันจะใช้การวิเคราะห์ความโค้งมนและมุมองศาของส่วนที่เป็นวงกลมตรงกลางลายนิ้วมือ"

.

การวิเคราะห์ลายนิ้วมือมาตรฐาน จะโฟกัสไปที่ทิศทางการวางตัวของเส้นนูนที่บริเวณกึ่งกลางของนิ้ว

ศาสตราจารย์ลิปสันบอกว่า ทั้งเขาและ เกบ กัว ซึ่งเป็นนักศึกษาในระดับปริญญาตรี ต่างก็แปลกใจกับผลลัพธ์ที่ออกมา

.

"พวกเราสงสัยในผลลัพธ์ที่ออกมาอย่างมาก... เราต้องเช็คมันกลับไปกลับมาอยู่หลายรอบ" เขากล่าว

.

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นอาจไม่ถือว่าเป็นข่าวใหม่นักสำหรับนักวิจัยคนอื่น ๆ ที่ศึกษาเรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว

.

เกรแฮม วิลเลียมส์ ศาสตราจารย์ด้านนิติวิทยาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยฮัลล์ ในสหราชอาณาจักร บอกว่าแนวคิดเกี่ยวกับการมีลายนิ้วมือเฉพาะที่แตกต่างกัน ไม่เคยเป็นเรื่องที่ถูกเชื่อกันอย่างหนักแน่นในวงการอยู่แล้ว

.

"ที่จริงเราไม่รู้ว่าลายนิ้วมือนั้นมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างหรือไม่" เขากล่าว "เราพูดได้อย่างมากก็แค่ เท่าที่เรารู้ ยังไม่เคยมีบุคคลสองคนไหนที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีลายนิ้วมือเหมือนกัน"

.

สถานที่เกิดเหตุอาชญากรรม

.
ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคลอมเบียชิ้นนี้ อาจส่งผลกระทบต่อทั้งนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงการยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลชีวภาพ (biometrics) เช่น การใช้นิ้วมือในการปลดล็อกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

.

ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีการค้นพบลายนิ้วมือจากนิ้วโป้งในสถานที่เกิดเหตุอาชญากรรม ก. และลายนิ้วมือจากนิ้วชี้ถูกพบในสถานที่เกิดเหตุ ข. ปัจจุบันกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถเชื่อมโยงลายนิ้วมือทั้งสองนี้ไปหาคน ๆ เดียวกันได้ แต่เครื่องมือเอไอที่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคลอมเบียสร้างขึ้นอาจสามารถเชื่อมโยงลายนิ้วมือทั้งสองเข้าด้วยกันได้

.

ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคลอมเบีย ซึ่งไม่มีใครเลยที่มีพื้นฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์ ยอมรับว่ายังมีความจำเป็นต้องทำการวิจัยเพิ่มเติม

.

โดยปกติเครื่องมือเอไอจะถูกฝึกด้วยข้อมูลปริมาณมหาศาล และก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ฐานข้อมูลลายนิ้วมืออีกเป็นจำนวนมากในการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ไปข้างหน้า

.

นอกจากนี้ ลายนิ้วมือทุกอันที่ใช้ในการพัฒนาเอไอตัวดังกล่าวยังเป็นลายนิ้วมือที่เห็นรายละเอียดของทั้งนิ้วอย่างชัดเจน ขณะที่ในโลกจริง มีโอกาสมากกว่าที่จะเจอเพียงส่วนเสี้ยวของลายนิ้วมือและเห็นรายละเอียดไม่ชัดมากนัก

.

"เครื่องมือของเรายังไม่ดีมากพอที่จะใช้ตัดสินหลักฐานในชั้นศาล แต่มันดีพอสำหรับการหาเบาะแสในกระบวนการสืบสวน" นายกัว หนึ่งในนักวิจัยกล่าว

.

แต่ ดร.ซาราห์ ฟีลด์เฮาส์ รองศาสตราจารย์ด้านนิติวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตฟฟอร์ดเชียร์ บอกว่า เธอไม่คิดว่าการศึกษาดังกล่าวจะสร้าง "แรงกระเพื่อมที่มีนัยสำคัญ" ต่องานด้านอาชญวิทยาในตอนนี้

.

เธอบอกว่า ยังคงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องว่า ลักษณะสำคัญบนนิ้วมือที่เอไอตัวดังกล่าวใช้วิเคราะห์จะยังคงเป็นจุดเดิมหรือไม่ เมื่อผิวหนังบนนิ้วมือเกิดการเปลี่ยนรูปร่างเมื่อนิ้วสัมผัสกับพื้นผิวหรือแผ่นกระดาษที่ใช้ในการเก็บลายนิ้วมือ รวมถึงประเด็นว่าเอไอยังคงใช้การประเมินลักษณะสำคัญบนลายนิ้วมือจุดเดิมหรือไม่เมื่อบุคคลดังกล่าวอายุมากขึ้น ทั้งนี้ การวิเคราะห์ลายนิ้วมือด้วยวิธีมาตรฐานดั้งเดิมจะพิจารณาลายนิ้วมือที่จุดเดิมแม้ว่าเจ้าของลายนิ้วมือจะอายุมากขึ้น

.

แต่นี่ก็เป็นคำถามที่ยากจะตอบ เนื่องจากนักวิจัยยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเอไอตัวนี้ทำงานอย่างไร ซึ่งก็ไม่ต่างจากกรณีที่เกิดขึ้นกับเครื่องมือเอไอจำนวนมาก

.

ในโลกจริง มีโอกาสมากกว่าที่จะเจอเพียงส่วนเสี้ยวของลายนิ้วมือและเห็นรายละเอียดไม่ชัดมากนัก

ทั้งนี้ งานศึกษาชิ้นนี้จากมหาวิทยาลัยโคลอมเบียได้ผ่านกระบวนการตรวจทานผลงาน (peer-review) แล้ว และได้ตีพิมพ์ลงในวารสาร Science Advances เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

.

อย่างไรก็ดี ฝาแฝดคู่หนึ่งที่อยู่ในเขตเชสเชียร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ ก็อาจจะรู้เรื่องนี้ล่วงหน้ากว่าใคร ยายของพวกเขาที่ชื่อ แคโรล บอกกับบีบีซีว่าหลานของเธอทั้งสองสามารถเปิดมือถือไอโฟนของกันและกันได้ด้วยการใช้ลายนิ้วมือ

.

"พวกเขาโชว์ให้ฉันดูในวันคริสต์มาส" เธอพูด "หมอบอกว่าหลานของฉันทั้งคู่เป็นแฝดแท้ตั้งแต่ตอนเกิด แต่ฉันสามารถบอกความแตกต่างระหว่างทั้งคู่ได้เมื่อพวกเขาโตขึ้น"

.

เธอยังอ้างด้วยว่าหลานของเธอ สามารถปลดล็อกโทรศัพท์ไอโฟนด้วยการสแกนใบหน้าแทนกันและกันด้วย

.

ลายนิ้วมือนั้นถูกกำหนดมาตั้งแต่ก่อนเราจะเกิดเสียอีก งานวิจัยที่ตีพิมพ์เมื่อปีที่แล้วชี้ว่า กระบวนการทางพันธุศาสตร์ที่กำหนดลายนิ้วมือ อาจเหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับสัตว์อย่างม้าลายหรือเสือดาวที่มีลวดลายบนตัวไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ นี่เป็นทฤษฎีที่ได้รับการเสนอเป็นครั้งแรกโดย อลัน ทิวริง ตั้งแต่ในช่วงทศวรรษ 1950

ที่มา : BBC https://www.bbc.com/thai/articles/cqv1nwywqn7o