มือของเมลานี เรด เคลื่อนไหวได้ดีขึ้นเล็กน้อย และสิ่งนี้สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้กับชีวิตของเธอ
มือซ้ายของ เมลานี เรด "ไร้เรี่ยวแรงเหมือนกล้วยทั้งหวี" ตั้งแต่เธอคอหักจากอุบัติเหตุขี่ม้าเมื่อ 14 ปีก่อน
ตอนนี้เธอสามารถใช้มือเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์และปลดเข็มขัดนิรภัยได้หลังจากได้รับการรักษาด้วยวิธีใหม่ ซึ่งก็คือการใช้กระแสไฟฟ้า
.
เมื่อใช้วิธีการนี้ร่วมกับกายภาพบำบัด คาดว่าจะช่วยฟื้นฟูการเคลื่อนไหวบางส่วนให้กับผู้ที่ป่วยเป็นอัมพาตตั้งแต่คอลงไป จากผลการศึกษาในผู้ป่วย 60 ราย พบว่า 43 ราย มีการเคลื่อนไหวของแขนและมือที่ดีขึ้น
.
คณะผู้วิจัยกำลังยื่นขออนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อใช้ระบบการรักษานี้ในการรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลในสหรัฐอเมริกา
.
วิธีการรักษานี้ จะใช้อิเล็กโทรดหรือขั้วไฟฟ้าติดที่รอบบริเวณที่ได้รับผลกระทบ กระแสไฟฟ้าความถี่สูงจะกระตุ้นสัญญาณที่สมองส่งไปยังมือและแขนผ่านเส้นประสาท ซึ่งในกรณีของเมลานี สัญญาณที่สมองเหล่านี้ถูกทำให้อ่อนลง เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังของเธอ
.
เมลานี วัย 67 ปี เป็นนักข่าวจากหนังสือพิมพ์ เดอะ ไทม์ส ออฟ ลอนดอน (The Times of London) เธอเป็นหนึ่งในผู้ป่วยกลุ่มแรกที่ลองใช้เทคนิคใหม่นี้ มือและแขนของเธอเคลื่อนไหวได้จำกัด โดยเฉพาะมือซ้ายซึ่งเธอไม่สามารถขยับได้เลย
.
เธอได้เข้ารับการบำบัดด้วยกระแสไฟฟ้าร่วมกับกายภาพบำบัดอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 2 เดือน เธอกล่าวว่า การรักษานี้ทำให้การขยับของอวัยวะดีขึ้นเล็กน้อย ซึ่งทำให้ชีวิตประจำวันของเธอเปลี่ยนไปอย่างมาก
.
"ฉันสามารถปลดเข็มขัดนิรภัยด้วยนิ้วหัวแม่มือซ้าย ตอนนี้ฉันเชื่อใจมือข้างนี้ในการยกถ้วยกาแฟ ฉันสามารถหยิบของชิ้นเล็ก ๆ และทำงานอย่างเช่น การกรองข้าวด้วยน้ำร้อนได้" เธอบอกผม
.
แม้ว่าผู้เข้าร่วมการทดลองส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวได้มากขึ้นเมื่อเปิดใช้อุปกรณ์ แต่ก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าอาการที่จะดีขึ้นในระยะยาวเมื่อผู้ป่วยไม่ได้สวมใส่อุปกรณ์นั้น เป็นผลมาจากกระแสไฟฟ้าหรือจากการทำกายภาพบำบัดมากน้อยเพียงใด
.
"เมื่อคุณรับสมัครผู้เข้าร่วมการศึกษาและให้ความสนใจอย่างมากกับพวกเขาเป็นเวลาหลายเดือน ย่อมต้องมีอาการที่ดีขึ้นระดับหนึ่ง" ศาสตราจารย์ โรเบิร์ต บราวน์สโตน ศัลยแพทย์และศาสตราจารย์ด้านประสาทวิทยา มหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน (UCL) ซึ่งไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมวิจัยกล่าว
.
นอกจากกายภาพบำบัดแล้ว ความรู้สึกของความหวังและการสนับสนุนจากการมีส่วนร่วมในวิธีการรักษาใหม่นี้ อาจมีส่วนทำให้เกิดความแตกต่าง
.
เมลานีกล่าวว่า มีบางสิ่งที่เธอสามารถทำได้ เฉพาะเวลาที่เปิดใช้กระแสไฟฟ้า เช่น การบิดน้ำออกจากผ้าล้างหน้าและการยกสิ่งของ แต่เธอรู้สึกว่าการได้รับการรักษาช่วยให้เธอแข็งแรงขึ้นอย่างยั่งยืน
.
"ฉันไม่สามารถบอกได้ว่าอาการที่ขยับได้ดีขึ้นทั้งหมดนี้ เกิดจากการกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้า แต่ฉันรู้สึกว่ามันช่วยเร่งและส่งเสริมให้ขยับได้มากขึ้น" เธอกล่าว
.
"ไม่มีปาฏิหาริย์ในอาการบาดเจ็บไขสันหลัง [แต่] หากอุปกรณ์นี้สามารถช่วยให้ผู้ที่เป็นอัมพาตยกแขนขึ้นเพื่อเอาอาหารเข้าปากหรือดื่มน้ำได้ นั่นคือการเปลี่ยนแปลงทั้งชีวิตแล้ว"
.
เทคนิคการใช้กระแสไฟฟ้าเคยถูกนำมาใช้ก่อนหน้านี้เพื่อช่วยให้ผู้ที่เป็นอัมพาตจากการบาดเจ็บที่หลังส่วนล่าง กลับมาเดินได้อีกครั้ง
ในการศึกษายังพบด้วยว่า ผู้ป่วยที่มีอาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังจะมีอาการดีขึ้นทันทีหลังได้รับบาดเจ็บ ส่วนผู้ที่ถูกเลือกเข้าร่วมการศึกษาในครั้งนี้ เป็นผู้ที่ประสบอุบัติเหตุมาแล้วเป็นเวลาตั้งแต่ 1-34 ปีที่แล้ว ซึ่งพบว่าพวกเขามีอาการดีขึ้นเล็กน้อยหรืออาการไม่ดีขึ้นเลยนับตั้งแต่การฟื้นตัวครั้งแรก
.
มาเรียล เพอร์เซลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของศูนย์นวัตกรรมการบาดเจ็บกระดูสันหลังแห่งสกอตแลนด์ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยควีนเอลิซาเบธ (Queen Elizabeth University hospital) ในกลาสโกว์ เป็นผู้รักษาเมลานี มาตั้งแต่ตอนที่เธอบาดเจ็บเมื่อ 14 ปีก่อน
.
หน่วยงานของเธอได้รับเชิญให้เข้าร่วมการศึกษาเนื่องจากเป็นศูนย์วิจัยชั้นนำของโลกในสาขานี้
.
เธอกล่าวว่าไม่เคยเห็นความก้าวหน้าเช่นนี้กับอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นนานขนาดนี้มาก่อน
.
"ปัจจุบันยังไม่มียาหรืออุปกรณ์ใด ๆ ที่ได้รับการอนุมัติและมีประโยชน์ทางคลินิกต่อผู้ป่วย" เธอกล่าว
.
อุปกรณ์นี้เป็นความก้าวหน้าล่าสุดจากผลงานของทีมวิจัยชาวสวิส นำโดยศาสตราจารย์เกรกัวร์ คอร์ทีน จากห้องปฏิบัติการวิจัยทางการแพทย์ของ EPFL ในเมืองโลซาน พวกเขาสามารถช่วยเหลือผู้ป่วย 26 คน ที่ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังที่อยู่ต่ำกว่าส่วนคอให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง โดยใช้การผ่าตัดฝังอุปกรณ์กระตุ้นสันหลัง แต่ทว่ายังอยู่ในขั้นทดลองภายในห้องทดลองเท่านั้น
.
ส่วนเทคนิคใหม่นี้ซึ่งเป็นการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด เป็นความพยายามครั้งแรกของทีมในการหาวิธีการรักษาสำหรับผู้ที่คอหักจนสูญเสียการเคลื่อนไหวของแขน
.
ศ.คอร์ทีน ได้ตีพิมพ์หลักฐานว่า การกระตุ้นด้วยไฟฟ้าร่วมกับกายภาพบำบัดทำให้เกิดการซ่อมแซมเส้นประสาทที่เสียหายบางส่วนได้
.
"เราเข้าใกล้มากขึ้นที่จะนำเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงชีวิตมาสู่ผู้ป่วยเหล่านี้" เขากล่าวกับบีบีซี
.
หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ อย่างองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) กำลังศึกษาข้อมูลจากการศึกษาทางคลินิก ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Nature Medicine เพื่อประเมินว่าวิธีนี้ปลอดภัยและมีประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญหรือไม่
.
ถ้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาอนุมัติ อุปกรณ์การแพทย์ที่ใช้เทคโนโลยีนี้ ซึ่งจะพัฒนาโดยบริษัทย่อยทางการค้า จะได้รับอนุญาตให้ใช้รักษาผู้ป่วยอัมพาตแขนขา (tetraplegics) ในโรงพยาบาลที่สหรัฐฯ
.
หากอุปกรณ์นี้ได้รับการอนุมัติให้ใช้ได้ในสหรัฐฯ ทีมงานที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีนี้จะยื่นขออนุมัติให้ใช้ในส่วนอื่น ๆ ของโลก
ที่มา : BBC https://www.bbc.com/thai/articles/cpwwqywjlv0o