แฟ้มภาพ - ฝูงนกบินผ่านคนขี่จักรยานคนหนึ่งในชิคาโก เมื่อ 1 ก.พ. 2556

ผลการศึกษาที่เพิ่งได้รับการเปิดออกมาเมื่อไม่นานมานี้ระบุว่า มีนกในธรรมชาติที่บินพุ่งเข้ากระแทกหน้าต่างอาคารบ้านเรือนจนตายในสหรัฐฯ ปีละกว่าพันล้านตัว โดยสาเหตุหลัก ๆ คือ แสงไฟที่มนุษย์พัฒนาขึ้นมาใช้งาน ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี

.

การศึกษาดังกล่าวเป็นความร่วมมือของนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฟอร์ทัม (Fordham University) กลุ่ม NYC Bird Alliance รวมทั้ง the American Bird Conservancy และมหาวิทยาลัยสโตนีบรู๊ค (Stony Brook University) ในมหานครนิวยอร์ก

.

แต่ คอนนี ซานเชซ ผู้จัดการโครงการอาคารเป็นมิตรต่อนกของ National Audubon Society เชื่อว่า ตัวเลขที่แท้จริงนั้นน่าจะสูงกว่านี้ เพราะว่านกที่บินพุ่งมากระแทกหน้าต่างและไม่ตาย แต่บาดเจ็บและบินออกไปตายที่อื่นน่าจะมีอยู่ไม่น้อย

.

ซานเชซ กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวมีสาเหตุสำคัญมาจาก “มลภาวะทางแสง” หรือการใช้แสงไฟประดิษฐ์ของมนุษย์ที่ติดตั้งอยู่ตามถนน อาคาร หรือแม้แต่ระเบียงบ้าน พร้อมระบุว่า “นกถูกดึงดูดเข้าหาแสง และแสงไฟประดิษฐ์ก็ทำให้นกอพยพบินออกนอกเส้นทางและสับสนเมื่อบินมาใกล้ไฟที่ว่า จนกระทั่งชนเข้ากับตัวอาคารและหน้าต่าง ... หรือไม่ก็อาจหลงบินวนไม่รู้ทิศ และต้องส่งเสียงร้องเรียกออกมา จนหมดแรงลงมาอยู่บนพื้น”

.

แฟ้มภาพ - นกนางนวลเกาะอยู่บนยอดเสาไฟที่ท่าเรือ Inner Harbor ในนครบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ เมื่อ 16 มิ.ย. 2553

เธอบอกด้วยว่า เหตุการณ์นกบินชนหน้าต่างนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมากในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงซึ่งเป็นช่วงที่นกอพยพ โดยนกนั้นพึ่งสัญญาณจากท้องฟ้าซึ่งก็คือ ดวงจันทร์และดวงดาว ที่นำทางให้ในช่วงฟ้ามืด

.

สิ่งที่น่าสนใจก็คือว่า ผลการวิจัยพบว่า 56% ของเหตุนกบินชนอาคารบ้านเรือนเกิดขึ้นกับโครงสร้างที่มีความสูงเพียง 1 หรือ 2 ชั้น และ 44% เกิดกับอาคารบ้านเรือน ขณะที่ สถิติที่เกิดขึ้นกับอาคารทรงสูงนั้นมีเพียงไม่ถึง 1%

.

ซานเชซบอกว่า ส่วนใหญ่ของกรณีนกบินชนตึกนั้นเกิดกับ “บ้าน โรงเรียนและสำนักงานธุรกิจที่อยู่นอกพื้นที่ใจกลางเมือง” พร้อมระบุว่า เจ้าของบ้านและผู้เช่าบ้านทั้งหลายสามารถช่วยกันป้องกันเหตุการณ์ที่ว่าได้

.

ข้อมูลจากโครงการ Lights Out ของ National Audubon Society เรียกร้องให้ผู้คน ธุรกิจและผู้จัดการและเจ้าของอาคารทั้งหลาย “ปิดไฟที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในระหว่างเดือนที่นกอพยพกำลังทำการบินอยู่ ... เพื่อเปิดเส้นทางที่ปลอดภัย(ให้ฝูงนก)บินระหว่างพื้นที่ทำรังและพื้นที่ที่เหล่านกใช้ชีวิตในช่วงฤดูหนาว”

.

แฟ้มภาพ - ฝูงนกบินบนท้องฟ้าในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นผ่านอาคาร One World Tower ในนครนิวยอร์ก เมื่อ 11 ธ.ค. 2558

ในพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ เช่น รัฐนิวยอร์ก ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ประชาชนปิดไฟตามสนามหญ้าและระเบียงในช่วงค่ำ ระหว่างกลางเดือนสิงหาคมและกลางเดือนพฤศจิกายน หรืออย่างน้อย ตลอดเดือนตุลาคมซึ่งเป็นช่วงที่นกทำการอพยพมากที่สุดสำหรับฤดูใบไม้ร่วง และหากการปิดไฟนั้นเป็นเรื่องยาก อย่างน้อยก็ให้หันไฟสนามลงพื้น หรือติดตั้งระบบตั้งเวลาและตัวเซนเซอร์ รวมทั้งจำกัดเวลาที่เปิดไฟให้สั้นลง

.

ขณะเดียวกัน การศึกษานี้เปิดเผยด้วยว่า ไฟที่อยู่ภายในอาคารบ้านเรือนและส่องสว่างออกมาทางหน้าต่างก็อาจเป็นภัยสำหรับนกอพยพด้วย ซานเชสจึงแนะนำให้ปิดม่านมูลี่ในช่วงกลางคืน และดับไฟดวงที่ไม่จำเป็นเสีย รวมทั้ง หาวัสดุต่าง ๆ หรือฉากกั้นมาตกแต่งที่กระจกหน้าต่างเพื่อลบเงาสะท้อนที่ทำให้นกหลงทางเพราะเข้าใจว่า ท้องฟ้าที่เห็นบนกระจกคือ ท้องฟ้าของจริง เป็นต้น

ที่มา : voathai https://www.voathai.com/a/outside-lights-are-deadly-to-birds-especially-this-time-of-year/7807212.html