“หัวเว่ย” สบช่องการปรับใช้คลาวด์ในไทยโตไม่หยุด เปิดตัว “คลาวด์ ลิงค์" ระบบการประชุมทางไกลเทเลเพรสเซนส์โฉมใหม่ ชูจุดต่างเป็นระบบแบบออลอินวัน ใช้งานง่าย ราคาคุ้มค่ากว่าคู่แข่ง
นายต๋ง อู่ รองประธานบริหาร ฝ่ายการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์สื่อสารคลาวด์ระดับองค์กรและฝ่ายขายโซลูชั่น กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ หัวเว่ย กล่าวว่า การปรับใช้เทคโนโลยีคลาวด์ในประเทศไทยมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างชัดเจน
ด้วยเทรนด์ดังกล่าว ล่าสุด หัวเว่ยได้เปิดตัว “คลาวด์ ลิงค์ (CloudLink)” ระบบการประชุมทางไกลเทเลเพรสเซนส์ (Telepresence) รุ่นใหม่ ประกอบด้วยอุปกรณ์ปลายทางสำหรับการประชุมผ่านวีดิโออัจฉริยะแบบออลอินวัน (CloudLink Board) พร้อมอุปกรณ์ปลายทางที่เชื่อมต่อการประชุมผ่านวีดิโอแบบอัลตร้าเอชดี (CloudLink Box) ที่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนการประสานการทำงานและการสื่อสารในองค์กรสู่ยุคอัจฉริยะ
ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสามารถใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรม ทว่าที่เห็นว่ามีโอกาสคือภาคการศึกษา เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ในส่วนที่ไม่มีความพร้อมทางบุคคลากร โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล เทียบกับผลิตภัณฑ์ของผู้เล่นรายอื่นๆ หัวเว่ยให้ข้อเสนอที่ดีกว่า ต่างกับคู่แข่งที่ทั้งราคาสูงกว่า การใช้งานค่อนข้างยุ่งยาก ไม่เป็นแบบออลอินวันและต้องแยกส่วนในการใช้งาน
“เป้าหมายของเรามุ่งพัฒนาโซลูชั่นการสื่อสารเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถสร้างระบบสำนักงานอัจฉริยะ ระบบการทำงานแบบอัจฉริยะ และพัฒนาโซลูชั่นในกลุ่มอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันหวังที่จะได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อช่วยทรานส์ฟอร์มรูปแบบการประสานงานและการสื่อสารขององค์กร รองรับอุตสาหกรรมที่หลากหลาย”
เขาประเมินว่า ภาพรวมตลาดระบบการประชุมทางไกลในประเทศไทยมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 50 ล้านดอลลาร์ ทว่าด้วยการมาของเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่นปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) รวมถึงคลาวด์ ได้ผลักดันให้มีการพัฒนาประสิทธิภาพให้ดีมากขึ้นจึงคาดว่ามูลค่าตลาดจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมแน่นอน
“ในยุคดิจิทัล นวัตกรรมจะเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า ขณะที่ความร่วมมือและการสื่อสารเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่นำไปสู่ความสำเร็จทางธุรกิจ” นายอู่ กล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ 26 พฤศจิกายน 2561 [http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/819520]