วงแหวนนางฟ้า (fairy circles) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติน่าตื่นตาในทะเลทรายประเทศนามิเบียที่เหล่านักวิทยาศาสตร์พยายามค้นหาต้นกำเนิดมานานหลายสิบปี แต่ล่าสุดมีผู้เสนอทฤษฎีใหม่ที่อาจช่วยไขปริศนาของธรรมชาติอันน่าทึ่งนี้

.

วงแหวนนางฟ้ามีลักษณะเป็นพื้นดินวงกลมอันว่างเปล่าที่มีต้นหญ้าขึ้นล้อมรอบ แต่ละวงอาจมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดตั้งแต่ 2-15 เมตร มักพบอยู่ตามทุ่งหญ้าเขตทะเลทรายนามิบทางภาคตะวันตกของนามิเบีย ซึ่งถือเป็นบริเวณแห้งแล้งที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังพบบางส่วนอยู่ทางตอนใต้ของแองโกลา และทางภาคเหนือของประเทศแอฟริกาใต้

.

การที่ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าวงแหวนนางฟ้าเกิดขึ้นได้อย่างไร ทำให้มีความเชื่อแปลกประหลาดมากมายเกี่ยวกับสาเหตุการเกิดวงแหวนเหล่านี้ เช่น บางคนเชื่อว่านี่คือผลงานของมนุษย์ต่างดาว เกิดจากฝนดาวตก มังกรไฟ หรือการที่นางฟ้าลงมาเต้นระบำเป็นวงกลม

.

ส่วนทฤษฎีในเชิงวิทยาศาสตร์นั้น มีผู้เสนอแนวคิดว่าวงแหวนนางฟ้าอาจเกิดจากการที่ปลวกกัดกินรากพืช หรือเป็นการแย่งชิงน้ำระหว่างพืชชนิดต่าง ๆ ในแถบนั้น

.

อย่างไรก็ตาม ดร.สเตฟาน เกตซิน นักนิเวศวิทยาจากมหาวิทยาลัยเกิตทิงเงนในเยอรมนีได้ศึกษาเรื่องวงแหวนนางฟ้ามาตั้งแต่ปี 2000 และพบว่าข้อสันนิษฐานเรื่องปลวกกันกินรากพืชนั้นไม่น่าเป็นความจริง เพราะจากการศึกษารากต้นหญ้าไม่พบหลักฐานว่าถูกปลวกกัดกิน

.

ดร.เกตซิน จึงเสนอทฤษฎีใหม่ว่า วงกลมปริศนาที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่ามีน้ำไม่เพียงพอสำหรับพืชจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในพื้นที่แถบนั้น

.

เขาอธิบายว่า “มันเป็นเพียงความแห้งแล้งของพืชที่เหี่ยวแห้งและขาดน้ำ...แท้จริงแล้ว ต้นหญ้าดึงน้ำจากด้านในวงกลม โดยปันน้ำดังกล่าวด้วยการดูดน้ำเข้าสู่ราก ทำให้ภูมิประเทศเปลี่ยนแปลงไป เหมือนการทำงานของวิศวกรระบบนิเวศ”

.

นักนิเวศวิทยาผู้นี้ชี้ว่า ทฤษฎีใหม่นี้ช่วยอธิบายวิธีที่พืชปรับตัวเข้ากับระบบนิเวศอันแห้งแล้ง

.

“ความสามารถนี้เป็นสิ่งสำคัญในอนาคต เพราะเราต้องเผชิญความแห้งแล้งเพิ่มขึ้นในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ และพืชจะต้องปรับตัวมากขึ้นภับภาวะขาดแคลนน้ำที่รุนแรงขึ้น”

.

“วงแหวนนางฟ้าเป็นตัวอย่างของการกักเก็บน้ำสำหรับพืชในแถบนี้” ดร.เกตซิน กล่าว

ที่มา : BBC https://www.bbc.com/thai/articles/cx832272j1xo