โรคเบาหวาน ชนิดที่ 1 คือ โรคเบาหวานที่มีแนวโน้มที่จะปรากฏในวัยเด็กหรือวัยรุ่น และตัวโรคยังเชื่อมโยงกับพันธุกรรมหรือถูกกระตุ้นโดยการติดเชื้อไวรัส
โรคเบาหวานเป็นโรคร้ายแรงที่เกิดขึ้นตลอดชีวิต และคร่าชีวิตผู้คนกว่าล้านคนในแต่ละปี มันเป็นโรคที่เกิดขึ้นกับใครก็ได้
.
สาเหตุของโรคเบาหวานเกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถจัดการกับน้ำตาลหรือกลูโคสในกระแสเลือดได้ โรคเบาหวานอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลว สโตรกหรือโรคหลอดเลือดสมอง ตาบอด ไตล้มเหลว และการตัดอวัยวะส่วนล่าง
.
เบาหวานเป็นปัญหาที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับประชากรโลก องค์การอนามัยโลก เปิดเผยว่าทั่วโลกมีคนป่วยโรคเบาหวานราว 422 ล้านคน ซึ่งมากกว่าเมื่อกว่า 40 ปี ก่อนถึง 4 เท่า
.
แม้จะมีความเสี่ยงมากมาย แต่ครึ่งหนึ่งของผู้ที่เป็นโรคเบาหวานกลับไม่รู้ตัวว่าตนเองป่วยเป็นโรคนี้ อย่างไรก็ดี การปรับวิธีการใช้ชีวิตสามารถป้องกันโรคนี้ได้ในหลายกรณี บีบีซีรวบรวมมาไว้ ดังนี้
.
สาเหตุของโรคเบาหวาน
เมื่อเรารับประทานอาหาร ร่างกายจะย่อยคาร์โบไฮเดรตและเปลี่ยนให้เป็นน้ำตาลกลูโคส หลังจากนั้น ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่เรียกว่าอินซูลิน ซึ่งผลิตในตับอ่อน และสั่งให้เซลล์ร่างกายของเราดูดซับน้ำตาลเหล่านั้นให้เป็นพลังงาน
.
แต่โรคเบาหวานจะเกิดขึ้นเมื่อฮอร์โมนอินซูลินไม่ถูกผลิตออกมา หรือทำงานไม่ปกติ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
.
น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์จะเพิ่มระดับกลูโคสในกระแสเลือด
เบาหวานมีกี่ชนิด
โรคเบาหวานมีหลายชนิด
.
ชนิดที่ 1 เป็นโรคเบาหวานชนิดที่เกิดจากตับอ่อนหยุดผลิตฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้น้ำตาลกลูโคสสะสมในกระแสเลือด
.
นักวิทยาศาสตร์ไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่เชื่อว่าอาจเป็นผลจากพันธุกรรมหรือผลจากการติดเชื้อไวรัสที่เข้าไปทำลายเซลล์ที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลินในตับอ่อน ผู้ป่วยโรคเบาหวานราว 10% ป่วยเป็นเบาหวานชนิดนี้
.
ชนิดที่ 2 เป็นโรคเบาหวานที่มีสาเหตุจากการที่ตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินออกมาไม่เพียงพอ หรือตัวฮอร์โมนอินซูลินเองทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ
.
เบาหวานชนิดนี้มักจะเกิดในคนวัยกลางคนไปจนถึงผู้สูงอายุ คนหนุ่มสาวที่มีน้ำหนักเกินและไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย รวมทั้งประชากรบางกลุ่มชาติพันธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวเอเชียใต้
.
อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่ผลิตในตับอ่อน ช่วยให้ร่างกายของเราดูดซึมกลูโคสไปเป็นพลังงาน
โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gestational Diabetes) หญิงตั้งครรภ์บางรายอาจได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานได้ เพราะร่างกายไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้เพียงพอสำหรับแม่และลูกในครรภ์
.
งานวิจัยหลายชิ้น ซึ่งศึกษาเกณฑ์การเป็นเบาหวานของหญิงตั้งครรภ์ พบว่า หญิงตั้งครรภ์ 6-16% จะมีภาวะเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ดังนั้น หญิงตั้งครรภ์จึงจำเป็นต้องควบคุมระดับน้ำตาลด้วยการดูแลอาหาร การออกกำลังกาย และ/หรือ การฉีดฮอร์โมนอินซูลินเพื่อป้องกันไม่ให้พัฒนาเป็นเบาหวาน ชนิดที่ 2
.
ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) คนทั่วไปอาจได้รับการวินิจฉัยให้เป็นภาวะก่อนเบาหวาน นั่นคือภาวะที่ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงขึ้นและอาจนำไปสู่การเป็นโรคเบาหวานได้ในที่สุด
.
โรคเบาหวานมีอาการอย่างไร
รู้สึกเหนื่อยรุนแรง หิวน้ำบ่อย ๆ และปัสสาวะมากกว่าปกติ คือ บางส่วนของอาการเป็นโรคเบาหวาน
อาการที่พบได้ส่วนมากเมื่อเป็นเบาหวาน:
- รู้สึกกระหายน้ำรุนแรง
- ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ โดยเฉพาะช่วงกลางคืน
- อ่อนเพลียมาก
- น้ำหนักลดลงโดยไม่ได้พยายาม
- มีภาวะการติดเชื้อราที่กลับมาเป็นหลายครั้ง โดยโรงพยาบาลศิริราชอธิบายว่าเป็น การติดเชื้อราที่ช่องคลอด หรือการติดเชื้อราที่ผิวหนัง
- ตามัว
- แผลเรื้อรังหรือรอยถลอกที่รักษาไม่หาย
.
ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (NHS) ระบุว่า อาการของเบาหวานชนิดที่ 1 มีแนวโน้มที่จะเกิดกับผู้ป่วยในวัยเด็กหรือวัยรุ่น และมีความรุนแรงมากกว่า
.
ส่วนคนที่มีความเสี่ยงต่อเบาหวานชนิดที่ 2 มักจะอยู่ในวัยที่อายุมากกว่า 40 ปี แต่สำหรับชาวเอเชียใต้อาจอยู่ที่ 20 ปี หรือมีพ่อแม่พี่น้องที่มีประวัติเป็นเบาหวาน มีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน และกลุ่มที่เสี่ยงอีกกลุ่มคือ พันธุกรรมในชาวเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียใต้ จีน แอฟโฟร-แคริบเบียน หรือแอฟริกันผิวดำ
.
ป้องกันโรคเบาหวานได้อย่างไร
การป่วยเป็นเบาหวาน มีปัจจัยขึ้นอยู่กับพันธุกรรมหรือปัจจัยแวดล้อม แต่คุณสามารถช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดเหมาะสมได้ ด้วยการรับประทานอาหารสุขภาพ เคลื่อนไหวหรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
.
การเปลี่ยนการกินน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์และธัญพืช มาเป็นผลไม้และธัญพืชไม่ขัดสี เป็นวิธีหนึ่งในการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
การหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่ใช้น้ำตาลแปรรูป เปลี่ยนการกินขนมปังขาวและเส้นพาสตามาเป็นอาหารไม่ขัดสี เป็นก้าวแรกที่ดี
.
น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์และธัญพืชขัดสีจะมีสารอาหารน้อยกว่า เพราะส่วนที่เป็นเส้นใยและอุดมด้วยวิตามินได้ถูกกำจัดออกไป ตัวอย่างเช่น แป้งขาว ขนมปังขาว ข้าวขาว พาสตาขาว ขนมอบ เครื่องดื่มน้ำอัดลมที่ใส่น้ำตาล ขนมหวาน และอาหารเช้าซีเรียลที่เติมน้ำตาล
.
ส่วนอาหารที่ดีต่อสุขภาพจะมีอย่างเช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว และธัญพืช รวมทั้งน้ำมันที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ถั่ว และน้ำมันปลาที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 จากปลาซาร์ดีน แซลมอน และแมคเคอเรล
.
สิ่งสำคัญ คือ ต้องรับประทานอาหารเป็นระยะ และหยุดรับประทานอาหารเมื่อรู้สึกอิ่มแล้ว
.
การออกกำลังกายยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ระบบสุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักร แนะนำว่าควรออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น วิ่งว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เดินเร็ว เดินขึ้นบันได สัปดาห์ละ 2.5 ชั่วโมง
.
สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงวิถีชีวิตแบบอยู่ประจำที่ และออกกำลังกายอย่างน้อย 2.5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
การมีน้ำหนักตัวที่เหมาะสมจะทำให้ร่างกายลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ง่ายขึ้น หากคุณจำเป็นต้องลดน้ำหนัก ให้ค่อย ๆ ทำอย่างช้า ๆ ในสัดส่วนระหว่าง 0.5-1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์
.
สิ่งสำคัญอีกเรื่อง คือ ไม่สูบบุหรี่ และตรวจสอบระดับคลอเรสเตอรอลเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจด้วย
.
ภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานมีอะไรบ้าง
ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอาจทำลายหลอดเลือดอย่างรุนแรง เพราะหากเลือดไหลเวียนไม่ดีในร่างกาย เลือดหล่อเลี้ยงไปไม่ถึงบางส่วนของร่างกายที่จำเป็นต้องได้รับ ภาวะเช่นนี้เพิ่มความเสี่ยงต่อความเสียหายต่อเส้นประสาท (สูญเสียความรู้สึก และไม่รู้สึกเจ็บปวด) สูญเสียการมองเห็น และเกิดการติดเชื้อที่เท้า
.
องค์การอนามัยโลกระบุว่า โรคเบาหวานเป็นสาเหตหลักของตาบอด ไตล้มเหลว โรคหัวใจเฉียบพลัน โรคหลอดเลือดสมองหรือสโตรก รวมทั้งอาจนำไปสู่การต้องตัดอวัยวะแขนขา
.
ในปี 2016 ประเมินว่าผู้คนทั่วโลก 1.6 ล้านคน เสียชีวิตด้วยสาเหตุโดยตรงจากโรคเบาหวาน
.
คนทั่วโลกเป็นโรคเบาหวานมากน้อยแค่ไหน
ตามการเปิดเผยขององค์การอนามัยโลก ประชากรโลกที่เป็นโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นจากเดิม 108 ล้านคนในปี 1980 เป็น 422 ล้านคน ในปี 2014
.
ในปี 1980 วัยผู้ใหญ่ (อายุมากกว่า 18 ปี) ทั่วโลกไม่เกิน 5% เป็นเบาหวาน แต่ในปี 2014 คนกลุ่มวัยนี้เพิ่มขึ้นเป็น 8.5%
.
สมาพันธ์โรคเบาหวานนานาชาติ ประเมินว่า 80% ของคนวัยผู้ใหญ่ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ระดับกลางจนถึงระดับล่าง ซึ่งมีนิสัยการกินเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
.
ในประเทศที่พัฒนาแล้ว เบาหวานมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความยากจน การบริโภคอาหารแปรรูปราคาถูก
ที่มา : BBC https://www.bbc.com/thai/articles/cg3p893krz3o