โฮมโปร ชวนคนรักบ้านส่งท้ายปีกับมหกรรมความคุ้ม ช้อปส่งความสุข..แบบรักษ์โลก ทุ่มกว่า 40 ล้าน จัดงาน “โฮมโปร เอ็กซ์โป” ช้อปครั้งยิ่งใหญ่ ครบ! คุ้ม! ทุกสินค้าเรื่องบ้าน พร้อมเปิดตัวครั้งแรก! ผนึกกำลังร่วมกับบริษัทชั้นนำ SCG และร่วมผลิตสินค้ารักษ์โลก ตอบรับเทรนด์ความยั่งยืนและสังคมรักษ์โลก พร้อมจำหน่ายสินค้า “Circular Product” ภายในงาน พิเศษสุด! กับสิทธิประโยชน์จัดเต็ม ได้ทั้งส่วนลด + รับเพิ่มรวมสูงสุดถึง 36% สำหรับการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตโฮมโปรวีซ่าแพลทินัม และ ช้อปครบรับเครดิตเงินคืนเข้าโฮมโปรวอลเล็ต รวมสูงสุดกว่า 102,500 บาท และยังมีโปรโมชั่นจากบัตรโฮมโปรเฟิร์สช้อยส์ “ซื้อปีนี้ จ่ายปีหน้า” ให้สิทธิ์นำสินค้าไปใช้ก่อน 2 เดือน พร้อมผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 12 เดือน เริ่มงวดแรกปี 67 ช้อปเลยห้ามพลาด พร้อมช้อปสบายกระเป๋ากับสินเชื่อ Homepay ซื้อก่อน ผ่อนทีหลัง สมัครง่ายใช้แค่บัตรประชาชน อนุมัติไว ผ่อนง่าย ได้ทุกชิ้น!! ระหว่างวันที่ 2-10 ธันวาคม 2566 นี้ ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 9-10 รวม 9 วันเต็ม คาดกระตุ้นแรงจับจ่ายปลายปี สร้างยอดขายกว่า 300 ล้านบาท

.

นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ โฮมโปร เปิดเผยว่า “ด้วยสภาวะการเติบโตของเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ชะลอตัวลง โฮมโปรมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้กับลูกค้า ด้วยการมอบสินค้าราคาพิเศษ และโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษต่างๆ ร่วมกับพันธมิตรสถาบันทางการเงิน ภายในงาน โฮมโปร เอ็กซ์โป ครั้งที่ 35 เป็นมหกรรมช้อปครั้งใหญ่แห่งปี ที่รวมทุกความพิเศษสินค้าเรื่องบ้าน ของใช้ และเครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพดี ราคาคุ้มค่า มาจัดแสดงภายในงาน เพื่อเป็นการคืนกำไรให้ผู้บริโภคได้เลือกช้อปสินค้าแต่งเติมบ้าน ท่ามกลางบรรยากาศช่วงเวลาดีๆ ส่งท้ายปี ซึ่งเป็นการตอกย้ำจุดแข็งของโฮมโปรที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้แบบ One Stop Shopping เรื่องสินค้าและบริการที่มีหลากหลายช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงเรื่องการทำตลาดจากสิทธิประโยชน์ที่มีมอบให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจได้ว่าโฮมโปร เอ็กซ์โป จะช่วยสร้างประสบการณ์ช้อปแบบครบ! คุ้ม! ทุกความต้องการให้กับลูกค้า และช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจ Home Solution and Living Experience มากขึ้นไปอีกระดับ”

.

มหกรรมช้อปสินค้าเพื่อคนรักบ้าน โฮมโปร เอ็กซ์โป ครั้งยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี จะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 10 ธันวาคม 2566 นี้ ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 9-10 ในคอนเซปต์ “ช้อปส่งความสุข แบบรักษ์โลก” ครั้งแรก! ของโฮมโปร ที่ผนึกกำลังกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก SCG เพื่อสร้างสังคมรักษ์โลก ด้วยการเปิดตัวสินค้า “Circular Product” ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ ผลิตใหม่ในกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมในการใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่า ไม่ว่าจะเป็น SHOPPING BAG จากสายรัดพลาสติกขนส่งสินค้า, กล่อง STACKO พลาสติกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ชำรุด, ถุงขยะ จากพลาสติกฟิล์มยืดที่ใช้พันรอบสินค้า และกระเบื้อง TARA ที่มีส่วนผสมของสุขภัณฑ์เก่า และยังคงความครบครันของสินค้าเรื่องบ้านไว้ทุกแผนก อาทิ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องนอน ของแต่งบ้าน ทีวี เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า รวมถึงกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มาพร้อมสิทธิพิเศษแบบรักษ์โลก ในแคมเปญ “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” เพียงนำของเก่ามาแลกซื้อของใหม่ในงาน (ที่ร่วมรายการ) รับทั้งส่วนลดและสิทธิผ่อนชำระ จัดหนักความคุ้มค่าตลอด 9 วันเต็ม

.

ภายในงานมีโปรโมชั่นสุดพิเศษ..คืนกำไรแรงส์ สำหรับลูกค้าโฮมการ์ด รับคูปองส่วนลดสูงสุด 1,500 บาท กดปุ๊ป..รับเลย ผ่าน HomePro Line Connect พิเศษเมื่อช้อปในงานคู่กับบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม ลดและรับเพิ่มรวมสูงสุด 8% พร้อมใช้คะแนนตามเงื่อนไข แลกรับส่วนลด+รับเพิ่ม รวมสูงสุดถึง 28% !! พิเศษสะสมทุกยอดช้อปต่อใบเสร็จ รับทันทีเครดิตเงินคืนเข้าโฮมโปรวอลเล็ต รวมสูงสุดกว่า 102,500 บาท!! (ต่อสมาชิก/ตลอดรายการ/ช้อปได้ถึง 31 ธ.ค.66 นี้) พร้อมรับจัดเต็มความคุ้มค่าต่อเนื่อง เมื่อช้อปสินค้าทีวี แอร์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า รับส่วนลดเพิ่มสูงสุดอีก 15% ตามเงื่อนไขที่ร่วมรายการ และเมื่อช้อปสินค้าครบ 10,000 บาทขึ้นไป เฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ รับสิทธิ์แลกซื้อบัตรสตาร์บัคส์ลด 50% และอีกหนึ่งสิทธิพิเศษที่พลาดไม่ได้.. กับโปรโมชั่นจากบัตรโฮมโปรเฟิร์สช้อยส์ “ซื้อปีนี้ จ่ายปีหน้า” บริการรูปแบบใหม่ ให้สิทธิ์ผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 12 เดือน เริ่มงวดแรกปี 67 ช้อปเลยห้ามพลาด พร้อมช้อปสบายกระเป๋ากับสินเชื่อโฮมเปย์ สมัครง่าย อนุมัติไว ใช้แค่บัตรประชาชน ผ่อนง่าย ได้ทุกชิ้น!! และยังมีสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมายจากบัตรเครดิตชั้นนำที่ร่วมรายการ

.

นายวีรพันธ์ เสริมอีกว่า “SCG เป็นพันธมิตรธุรกิจ เพื่อสร้างความยั่งยืนร่วมกัน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญ ตั้งแต่ด้านกระดาษ SCG Packaging, ด้านผลิตภัณฑ์พลาสติก SCG Chemicals และด้านวัสดุก่อสร้าง SCG Cement Building ทำให้การผสานพลังครั้งนี้ แสดงออกถึงศักยภาพความพร้อมที่จะสร้างการเติบโตร่วมกันทั้งด้านผลิตภัณฑ์ ความยั่งยืน ไปจนถึงร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยี สร้างนวัตกรรมจากขยะพลาสติก ในโครงการถนนพลาสติกรีไซเคิลและสินค้ารีไซเคิลสร้างสรรค์ เพื่อปูทางสู่เศรษฐกิจที่ยั่งยืน ภายใต้แนวคิด Circular Economy พร้อมผลักดันเป้าหมาย Net Zero ของประเทศร่วมกันให้สำเร็จ ภายในปี ค.ศ. 2050 ต่อไป”

.

Circular Project เริ่มตั้งแต่รวบรวมผลิตภัณฑ์หรืออุปกรณ์เก่าที่ไม่ใช้แล้ว ทำ R&D พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับทุกฝ่ายตั้งแต่กลุ่มลูกค้า, หน่วยงานภายนอก จนถึงภายในองค์กร โดยวัสดุต่างๆ ที่รวบรวมมาจะนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมตามแนวทาง Reduce (ลดใช้วัสดุหรือสารเคมี), Reuse (การนำกลับมาใช้ซ้ำ), Recycled (การใช้วัสดุรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบ) และยังปรับเปลี่ยนให้ผลิตภัณฑ์สามารถย่อยสลายได้ (Biodegradable) อีกด้วย อาทิ

.

• ถุง Shopping Bag ผลิตจากพลาสติก PP ซึ่งมีส่วนผสมของเม็ดพลาสติก PCR (Post Consumer Recycled) 30% จากสายรัดพลาสติกที่ได้มาจากการขนส่งสินค้า เพื่อเป็นการลดปริมาณขยะพลาสติกที่อาจไปเป็นส่วนหนึ่งของหลุมฝังกลบ (Landfill)

.

• กล่อง Stacko ที่มีส่วนผสมเม็ดพลาสติก PCR (Post Consumer Recycled) 30% จากเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ชำรุดที่ได้มาจากโครงการแลกเก่าเพื่อโลกใหม่ เป็นการลดใช้เม็ดพลาสติก Virgin ในการผลิต ซึ่งส่งผลโดยตรงกับการช่วยลดใช้ทรัพยากรและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

.

• ถุงขยะ มีส่วนผสมเม็ดพลาสติก PCR (Post Consumer Recycled) 30% จากพลาสติกฟิล์มยืดชนิด LLDPE ที่ใช้ในการพันรอบสินค้าเพื่อความปลอดภัยระหว่างการขนส่ง ที่ถูกนำกลับมาเป็นถุงขยะคงคุณสมบัติความแข็งแรงทนทานต่อการฉีกขาด ไม่มีกลิ่นเมื่อเทียบกับถุงขยะทั่วไป

.

• กระเบื้อง TARA ที่มีส่วนผสมของสุขภัณฑ์เก่าที่นำมา recycle เพื่อหลีกเลี่ยงการกำจัดแบบฝังกลบ โดยการแปลงสภาพสุขภัณฑ์เก่าที่ได้จากโครงการแลกเก่าเพื่อโลกใหม่ ให้เป็นกระเบื้องดีไซน์ทันสมัยและมีคุณสมบัติต่าง ๆ เทียบเท่ากับกระเบื้องปกติ

.

ด้าน นายชาตรี เอี่ยมโสภณา ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี เปิดเผยว่า “เอสซีจีมีการดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ ESG 4 Plus ที่มุ่ง Net Zero – Go Green – Lean เหลื่อมล้ำ – ย้ำร่วมมือ ยึดหลักเชื่อมั่นและโปร่งใส ตั้งเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 รวมทั้งมุ่งพัฒนานวัตกรรม โซลูชันตอบเมกะเทรนด์โลก ให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบาย ปลอดภัย คุ้มค่า และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงมีการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ตั้งแต่การผลิต การใช้ และวนกลับสู่กระบวนการผลิตเป็นวัตถุดิบใหม่ ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy"

.

"ทั้งนี้ เอสซีจี ยังได้ต่อยอดและขยายแนวคิด Circular Economy ด้วยการขับเคลื่อนความยั่งยืน ร่วมกับพันธมิตรอย่าง โฮมโปร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งนำของเสียกลับมาสร้างคุณค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด และลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ โดยนำสินค้าเก่าที่ไม่ใช้แล้วจากโฮมโปร มาคัดแยกวัสดุแต่ละประเภท เพื่อผลิตเป็นสินค้านำกลับมาใช้ใหม่ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน อาทิ สินค้ากลุ่มบรรจุภัณฑ์กระดาษ มีการรวบรวมกล่องกระดาษลัง นำมารีไซเคิลเป็นกล่องของขวัญ หรือ บ้านกระดาษแมว, สินค้ากลุ่มเซรามิค มีการนำสุขภัณฑ์เก่ามารีไซเคิลผลิตเป็นกระเบื้องเซรามิค และ สินค้ากลุ่มพลาสติก มีการนำเม็ดพลาสติกจากแหล่งต่างๆ มา upcycling เป็นถุง ช้อปปิ้ง และกล่องพลาสติกต่างๆ ซึ่งวันนี้มีเปิดตัวและจำหน่ายให้กับผู้เข้าร่วมงานที่เป็นสายรักษ์โลก ภายในงาน ‘โฮมโปร เอ็กซ์โป’ ครั้งนี้”

.

นายวีรพันธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ความร่วมมือนี้ เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจหลักด้านความยั่งยืน ที่โฮมโปรให้ความสำคัญ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero หรือปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ ในปี ค.ศ.2050 นี้ นับเป็นก้าวสำคัญ และสอดรับกับปณิธานองค์กร We Make a Better Living เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจ Home Solution and Living Experience ที่สร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับสังคมและชุมชนในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้อย่างยั่งยืน”

ที่มา : mgronline https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9660000109303