ทุกๆ ปี ในแต่ละวัน ดวงอาทิตย์จะปรากฏอยู่ตำแหน่งที่แตกต่างกันบนท้องฟ้า หากสังเกตแล้ว จะมีการเปลี่ยนตำแหน่งไปประมาณวันละ 1 องศา ทำให้ตลอดระยะเวลา ที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 ปี 365 วัน จะเกิดปรากฏการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ ทั้งหมด 4 ครั้ง ได้แก่ “วันครีษมายัน” เป็นวันที่ “วันวสันตวิษุวัต” และ “วันศารทวิษุวัต” เป็นวันที่มีกลางวันและกลางคืนยาวนานเท่ากัน และท้ายสุดคือ "วันเหมายัน" เป็นวันที่กลางคืนยาวนานที่สุดในรอบปี

.

สำหรับในวันที่ 22 ธันวาคม ของทุกปี ถือเป็น “วันเหมายัน” (เห-มา-ยัน) (Winter Solstice) หรือที่คนไทยเรียกว่า “ตะวันอ้อมข้าว” ในวันนี้ จะเป็นวันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางใต้มากที่สุด และตกทางทิศตะวันตกเฉียงไปทางใต้มากที่สุด ส่งผลให้ช่วงเวลากลางวันสั้นที่สุด 11 ชั่วโมง 19 นาที และกลางคืนยาวนานที่สุดในรอบปี

.

ดวงอาทิตย์จะขึ้นเวลาประมาณ 06:36 น. และจะตกลับขอบฟ้าเวลาประมาณ 17:55 น. รวมระยะเวลากลางวันเพียง 11 ชั่วโมง 19 นาที และวันเหมายันยังถือเป็นวันแรกของการเข้าสู่ฤดูหนาวสำหรับประเทศทางซีกโลกเหนือ แต่สำหรับประเทศทางซีกโลกใต้นั้นจะนับเป็นวันแรกที่เข้าสู่ฤดูร้อน

.

การที่แกนโลกเอียงทำมุม 23.5 องศา กับแนวตั้งฉากกับระนาบโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ จึงทำให้พื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกได้รับแสงอาทิตย์ในปริมาณไม่เท่ากัน ส่งผลให้มีอุณหภูมิต่างกัน รวมถึงระยะเวลากลางวันและกลางคืนก็ต่างกันด้วย เหตุนี้ทำให้เกิดฤดูกาลขึ้นบนโลก สังเกตได้ว่าในฤดูร้อนดวงอาทิตย์จะขึ้นเร็วและตกช้า เวลากลางวันจะมีระยะเวลายาวนานกว่ากลางคืน แตกต่างกับฤดูหนาวที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นช้าและตกเร็ว เวลากลางคืนจะมีระยะเวลายาวนานกว่ากลางวัน

.

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิง : สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ NARIT

ที่มา : mgronline https://mgronline.com/science/detail/9660000113772